
รอง ผอ.แจงดราม่า หอบผ้ามานอนพักที่โรงเรียน ที่แท้มีเบื้องหลัง ร้ายแรงถึงชีวิต
ต้องบอกว่าเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่น้อยในโลกออนไลน์ สำหรับกรณีเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับ รอง ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้หอบผ้าหอบผ่อนมาอาศัยอยู่ที่บริเวณห้องเก็บของใต้บันไดของโรงเรียน ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยได้กินอยู่ที่นี่มานาน 4 เดือนแล้ว วันดีคืนดีก็ใส่เสื้อบอลเดินไปอาบน้ำให้ครูและนักเรียนได้เห็นกันด้วย
ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 3 ได้ลงพื้นที่โรงเรียนวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ในเบื้องต้น นายธีระยุทธ สมบูรณ์สุข ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะติดภารกิจประชุมคุณครูในโรงเรียน แต่ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า จากข้อมูลที่มีการนำเสนอในเพจนั้น ตนเองทราบเรื่องแล้ว และได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปที่ผู้อำนวยการเขตวัฒนา และปลัดกรุงเทพมหานครก็ทราบเรื่องนี้แล้ว
ทั้งนี้ ระหว่างที่ทีมข่าวนั่งรอพบผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่นั้น นายปริญญา วนาลัย รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธาตุทอง คนที่เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ให้ข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่หอบผ้ามานอนที่โรงเรียน ได้เดินเข้ามาชี้แจงกับผู้สื่อข่าว พร้อมพาผู้สื่อข่าวไปดูห้องเก็บของใต้บันไดของอาคาร 2 ที่ตัวเองอาศัยนอนช่วงป่วย
นายปริญญา กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมานอนที่โรงเรียนว่า ปกติแล้ว ตนเองอาศัยบ้านเช่าอยู่คนเดียวย่านบึงกุ่ม เนื่องจากได้แยกทางกับภรรยาและลูก สาเหตุการป่วยเริ่มจากช่วงปลายปีที่ล้ว ตนเองมีอาการตัวสั่นและวูบหมดสติระหว่างการประชุม ครูในโรงเรียนจึงพากันนำตัวส่งโรงพยาบาล ต้องนอนรักษาตัวนาน 5 วัน ผลการตรวจสุขภาพพบว่าตนเองมีภาวะโรคหัวใจ เนื่องจากเส้นเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันไป 1 เส้น หลังออกมาจากโรงพยาบาล ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เดินขึ้นอาคารเรียนก็มีอาการหอบเหนื่อย ต้องกินยาในช่วงเช้า 8 เม็ด กินยาช่วงเย็น 3 เม็ดทุกวัน
ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นว่าสุขภาพไม่ดีและพักอาศัยอยู่คนเดียว ถ้าอาการกำเริบหรือวูบอีก อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ ผู้อำนวยการจึงสอบถามว่า ตนเองมานอนเฝ้าโรงเรียนหรือไม่ มาคอยดูแลโรงเรียนด้วย เพราะโรงเรียนมี รปภ.หากมีเหตุฉุนเฉินยังมีคนช่วยเรียกรถพยาบาลให้ได้ ตนเองจึงขอมานอนที่โรงเรียนชั่วคราวเพื่อรักษาตัวให้แข็งแรง ถ้าแข็งแรงแล้วก้จะกลับไปพักที่เดิมหรือออกไปเช่าที่พักแถวๆ โรงเรียน
ในช่วงมานอนที่โรงเรียนนั้น ตนเองก็ได้ไปรับลูกสาววัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับยายให้มานอนเป็นเพื่อน เพื่อมาเฝ้าพ่อ พร้อมสั่งว่าถ้าพ่อมีอาการกำเริบหรือหมดสติไป ให้รีบวิ่งไปเรียน รปภ.เพื่อตามรถพาไปโรงพยาบาล เพราะหากยังพักอยู่ที่บึงกุ่มตนเองต้องขับรถจักรยานยนต์ ระยะทาง 15 กิโลเมตรก็ถือว่ามีความเสี่ยง จึงมานอนที่โรงเรียนชั่วคราว
สำหรับห้องที่อาศัยนอนนั้น เป็นห้องเก็บของละห้องควบคุมหม้อแปลงไฟฟ้า อยู่ใต้บันไดอาคาร 2 ไม่มีแอร์ ยาวประมาณ 4 เมตร กว้าง 2-3 เมตรเท่านั้น ตนเองก็ใช้อาศัยนอนชั่วคราวเท่านั้น รอให้อาการป่วยดีขึ้น ซึ่งระหว่างการพูดคุยรองผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้นำใบรับรองแพทย์ พร้อมกับยารักษาตัวที่ต้องกินทุกวัน มายืนยันให้ทีมข่าวดูด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุที่มีภาพและข้อมูลไปปรากฏในสื่อนั้น อาจจะเป็นเพราะปัญหาการทำงานภายในโรงเรียนที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เพราะตนเองเป็นผู้บริหาร อาจจะสั่งงานหรือทำอะไรไม่ถูกใจบุคลากรบางคนในโรงเรียน น่าจะเป็นในเรื่องนี้ด้วยจึงทำให้เกิดการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม อยากจะชี้แจงกับสังคมว่า สาเหตุที่ต้องมานอนที่โรงเรียน เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจตีบ ดังนั้นถือว่าเป็นโรคอันตราย ถ้าอยู่คนเดียวแล้วเกิดอาการวูบไป อาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นผู้บริหารโรงเรียนจึงเป็นห่วงให้มาอาศัยนอนชั่วคราว ตนเองจึงมานอนห้องดังกล่าว หากอาการดีขึ้นและแข็งแรง ก็พร้อมย้ายออก แต่การมานอนไม่ได้นอนเฉยๆ ก็ต้องช่วยดูแลโรงเรียนไปด้วย เพราะตนเองเป็นรองฝ่ายบริหารงานทั่วไป ตอนนี้อายุ 59 ปี ปีหน้าก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว
ภายหลังพูดคุยกับทีมข่าว รองผู้อำนวนการโรงเรียนได้ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันขนของ ย้ายของออกจากห้องเก็บของทันที โดยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว วันนี้ตนเองจะย้ายออกจากห้องเก็บของทันที เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ในช่วงนี้ก็อาจจะไปหาเช่าห้องพักใกล้ๆ กับโรงเรียนอยู่ไปก่อน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นหากสำนักงานเขตวัฒนา หรือกรุงเทพมหานคร จะตั้งกรรมการสอบตนเองก็พร้อมให้ข้อมูล และยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานเขต เนื่องจากสาเหตุที่มาพัก เพราะป่วยจริง ไม่มีเจตนาเบียดบังทรัพยากรของทางราชการแต่อย่างใด เพราะห้องที่นอนไม่มีแอร์ เปิดเพียงพัดลมเท่านั้น