ล้างบางบริษัทบัญชีนายทุนจีน 15 บริษัท พร้อมชาวไทย-จีน 71 คน หลังรับจดบริษัท นอมินี เปิดช่องต่างชาติแย่งงานคนไทย

ล้างบางบริษัทบัญชีนายทุนจีน 15 บริษัท พร้อมชาวไทย-จีน 71 คน หลังรับจดบริษัท นอมินี เปิดช่องต่างชาติแย่งงานคนไทย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ นำโดย พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ. และ พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจสอบสวนกลาง กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันตรวจค้น

1. บริษัทบัญชีแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ  

2. บ้านเดี่ยว โครงการหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ดำเนินคดีบริษัท และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้        

1. นิติบุคคล จำนวน 15 บริษัท        

2. บุคคลสัญชาติจีน จำนวน 21 ราย        

3. บุคคลสัญชาติไทย จำนวน 51 ราย

รายการตรวจยึด

1. โฉนดที่ดิน 5 ฉบับ  

2. ตราประทับบริษัท จำนวน 332 อัน

3. เอกสารลูกค้าของบริษัท จำนวน 2 กล่อง

4. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท นอมินี ของนายลีฯ จำนวน 1 แฟ้ม

5. เอกสารขอ VISA และ WORK PERMIT จำนวน 16 รายการ

ฐานความผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542

สืบเนื่องจาก เมื่อต้นเดือน มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบจีนดำ จับกุมตัวผู้ต้องหาชาวจีนชื่อ นายลีฯ ทำบัตรประชาชนเถื่อน และเป็นผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ก่อเหตุยักยอกทรัพย์ชาวจีน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านหยวน (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2564 และจัดตั้งบริษัท อันเจีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายชาวจีน โดยอ้างว่าสามารถทำวีซ่า และบัตรประชาชนให้ได้ ซึ่งนายลีฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมตัวและดำเนินคดีไว้ได้แล้วนั้น

จากการสืบสวนขยายผล ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ทราบว่า บริษัทดังกล่าว มีพฤติกรรม นำชื่อคนไทยมาถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยไม่มีสถานที่ตั้งจริงตามที่จดทะเบียนไว้ และจากการตรวจสอบพบว่า บริษัท นอมินี ของนายลีฯ ได้ว่าจ้างบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นผู้รับจดทะเบียนและส่งงบการเงิน และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีพฤติกรรมนำชื่อของกรรมการและบุคคลในครอบครัว ไปถือหุ้นในบริษัทชาวจีนอีกจำนวนมาก

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบริษัทรับทำบัญชี และบ้านเดี่ยวในโครงการหรู ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ รวม 2 จุด จากการตรวจค้นพบว่า บริษัทบัญชีดังกล่าวมี น.ส.เหยียน เจ้า หรือวีนัส สัญชาติจีน เป็นนายทุนเจ้าของบริษัท จะคอยบริหารงานจากประเทศจีนและหาลูกค้าชาวจีนที่ต้องการเปิดบริษัทในประเทศไทย เมื่อมีลูกค้าชาวจีนต้องการจดทะเบียนบริษัท จะสั่งการผ่านแอปพลิเคชัน WeChat โดยนำชื่อพนักงานคนไทย และบุคคลใกล้ชิด มาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า นอมินี ถือหุ้นในสัดส่วนของคนไทยแทนคนต่างด้าว เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์

จึงได้ทำการตรวจยึดพยานเอกสาร ของกลาง เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีและจากการตรวจค้น บ้านเดี่ยวในโครงการหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าถือกรรมสิทธิ์โดยบริษัทนอมินีจีน และยังพบว่าภายในโครงการหมู่บ้านหรูดังกล่าว มีบ้านที่ถือกรรมสิทธิ์โดยบริษัทนอมินีจีนอีก รวมจำนวน 5 หลัง มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบบริษัทในเครือข่าย ซึ่งจดทะเบียนที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน รวม 17 บริษัท พบว่า เป็นคูหาร้างภายในตลาดแห่งหนึ่ง ย่านบางเสาธง โดยผู้ดูแลโครงการให้ข้อมูลว่าคูหาร้างดังกล่าว ไม่มีผู้ใดมาเช่าเพื่อดำเนินกิจการหรือตั้งเป็นสำนักงานบริษัท แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนิติบุคคล จำนวน 15 บริษัท บุคคลสัญชาติจีน จำนวน 21 ราย บุคคลสัญชาติไทย จำนวน 51 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ