
เด็กเล่นซ่อนแอบ เปิดใจหายไปไหนมา หลังครอบครัวตามหาเป็นชั่วโมงไม่เจอ ตาเผยเรื่องหลอนใกล้จุดที่หายตัว
จากกรณี น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เล่นซ่อนแอบกับเพื่อนก่อนจะหายตัวไปปริศนา โดยครอบครัวและเจ้าหน้าที่พยายามตามหาตัว ใช้เวลาอยู่นาน กระทั่งมาพบอยู่บริเวณหลังม่านบังแดด บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ม.6 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้ง โดยวันนี้เด็ก ๆ ทั้งหมดเดินทางไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนช่วงปิดเทอม มีเพียงญาติที่รอให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ได้พบกับยายระเบียบ พิมพ์ทองดี อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นยายชวดของกลุ่มเด็ก ๆ เดินพาไปดูรูปของตาสำรวย สามีซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยกล่าวว่าตั้งแต่เมื่อเกิดเหตุ ตนเองรู้ในใจว่า ต้องเป็นเรื่องของผีบังตา หรือผีเอาไปซ่อนแน่ ตนกล่าวลอย ๆ กับสามีที่เสียชีวิตไปว่าขอให้ช่วยลูกหลานเหลนด้วย อย่าให้อะไรมาบังตา ขอให้ดลบันดาลให้ปล่อยตัวน้องเอ และจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้กับภูตผี สัมภเวสีทุกตน ไม่นานก็พบกับน้องเอ โดยมีกลุมเพื่อน ๆ จูงมือออกมาในจุดที่ทุกคนเดินหา แต่กลับไม่พบ
ยายระเบียบ เล่าต่อว่า หลังจากที่น้องเอ อยู่ในอาการปกติ จึงได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว น้องเอ กล่าวกับตนเองและอีกหลาย ๆ คนที่นั่งฟังว่า หลังจากเข้าไปซ่อนตัวหลังผ้าม่านบังแดด ซึ่งน้อยใจเพื่อน ๆ ที่ไม่ให้รำไทย ก่อนที่จะหลุดเข้าไปในโพรงลึก ซึ่งมีความเย็นสบายจนหนาวสั่น และได้เผลอหลับไปนานกว่า 2 ชั่วโมง ไม่ได้ยินเสียงใคร จนเขาปล่อยตัวออกมา ซึ่งเมื่อเผชิญหน้าแม่ญาติก็ยังงงว่า แม่ร้องไห้ทำไม และทำไมมีคนเยอะ ซึ่งตนเองก็ตอบไม่ได้เช่นกันว่า เป็นเพราะอะไรทำไมทุกคนถึงหาตัวเองไม่เจอ หลังจากนั้น ทางญาติครอบครัวได้ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ พร้อมทั้งได้ทำพิธีขอขมาสิ่งลี้ลับต่าง ๆ อุทิศส่วนกุศลไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน และได้ทำบุญกรวดน้ำไปเมื่อช่วงเช้า
ทางด้านนายสุวิทย์ แสงแก้ว อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นตา ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดังกล่าว แต่ก็ได้ร่วมพิธีจุดธูปร่วมกับญาติจ้าละหวั่น เมื่อช่วงเกิดเหตุ เพื่อขอขมาสิ่งลี้ลับให้ปล่อยตัวเด็กออกด้วยเช่นกัน พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปดูหลังบ้านเชิงเขาแก้ว ชี้ให้ดูพื้นที่ ๆ มีผู้ชายผูกคอจบชีวิต และหญิงตั้งครรภ์ผูกคอทั้งกลมจำนวน 3 ศพ และจุดที่อดีตสามีฆาตกรรมฝังร่างเมียนานกว่า 8 เดือน ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก รวมถึงบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นทางสามแพร่งที่มักเกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตประจำ และยังพาไปดูหลังผ้าม่านบังแดดที่กลางวันร้อนระอุ และไม่พบโพรงใด ๆ ตามที่น้องเออ้าง ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องปริศนาคาใจกับทุกคน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี รายงาน