
เปิดแผนปฏิบัติการ สนธิกำลังสกัดกั้นรถเทรลเลอร์ซุกซ่อนยาเสพติด ก่อนกระจายสู่พื้นที่ชั้นใน
ตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ด้วยการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ซึ่งเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยข่าวกรองทหาร กองทัพบก โดย พ.ต. ณรงค์ สลับศรี หน.ชุดปฏิบัติการข่าว ,ร.ท. เสรี ขำโสภา ,จ.ส.อ.ศุภกิจ ภิรมยาภรณ์ ,ส.อ.ปภาวิน สวนะทรงธรรม ,ส.อ.นเรศ แก้วจรุณ , ส.อ.ภูวดล ฝอยทอง ,ส.อ.ออมสิน วงศ์ประยูรเวช ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม สกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ รายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ ในคดีนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่เคยถูกจับกุม จนสืบทราบมาว่ามีขบวนการขนลำเลียงยาเสพติด มาจากพื้นที่บริเวณชายแดนภาคเหนือโดยใช้รถเทรลเลอร์ซุกซ่อน ยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนและสะกดรอยติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งวันที่ 21 มี.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาใช้รถเทรลเลอร์ขนลำเลียงยาเสพติดในตู้คอนเทนเนอร์ จะใช้เส้นทางขนลำเลียงผ่านมายังพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อจะนำยาเสพติดเข้าไปกระจายส่งต่อในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์
ต่อมาเวลาประมาณ 14.10 น. พบรถเทรลเลอร์บรรทุกพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหัว 74-65xxสมุทรปราการ,ป้ายทะเบียนหาง 74-66xx สมุทรปราการ ที่ได้รับแจ้งผ่านมาบริเวณถนนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวและเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่ามีการดัดแปลงช่องลับภายในตู้คอนเทนเนอร์ โดยนำแผ่นเหล็กมากั้นแยกเป็นผนังแยกเป็นห้องอีกชั้นหนึ่ง เพื่อใช้ในการอำพรางและปิดบังเจ้าหน้าที่ขณะขนลำเลียงยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 91 กระสอบๆ ละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าประมาณ 18,200,000 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัม และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 10 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ของรถเทรลเลอร์คันดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้ถูกจับกุม 1.นาย พิษณุฯ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง 2.นาย ณัฐวุฒิฯ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
ข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” พร้อมของกลาง มูลค่ายาเสพติด ประมาณ 996,000,000 บาท
1.ยาบ้า จำนวน 91 กระสอบ จำนวนประมาณ 18,200,000 เม็ด มูลค่า 546,000,000 บาท
2.ยาไอซ์ จำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัม มูลค่า 300,000,000 บาท
3.เคตามีน จำนวน 10 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม มูลค่า 150,000,000 บาท
4.รถบรรทุกพ่วงติดป้ายทะเบียนหัว 74-65xx สมุทรปราการ, ตู้คอนเทนเนอร์ติดป้ายทะเบียนหาง 74-66xx สมุทรปราการ
สอบถามผู้ต้องหา
1.นายพิษณุฯ ให้การรับสารภาพว่า เคยขับรถบรรทุกสิบล้อขนส่งสินค้ามาประมาณ 10 ปี และลาออกจากงานมาประมาณ 3 ปี ต่อมาได้รับการว่าจ้างขับรถเทรลเลอร์ให้บรรทุกเครื่องสุขภัณฑ์ไปส่งบริเวณชายแดนทางภาคเหนือ จำนวน 3 ครั้ง เพื่อสำรวจเส้นทาง ต่อมาขับรถเทรลเลอร์บรรทุกน้ำดื่มไปส่งบริเวณชายแดนทางภาคเหนือ และขับรถพ่วงเทรลเลอร์ที่ดัดแปลงช่องลับเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด โดยรับยาเสพติดจากพื้นที่บริเวณชายแดนทางภาคเหนือมาแล้ว จำนวน 5 ครั้ง นำยาเสพติดมาพักเก็บไว้ที่โกดังพื้นที่ภาคกลาง เพื่อคอยกระจายให้แก่ลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ ประมาณ 100,000 -200,000 บาท
2.นายณัฐวุฒิฯ ให้การรับสารภาพว่า เคยขับรถบรรทุกหกล้อห้องเย็น ปัจจุบันไม่ได้ทำงาน ได้มีนายพิษณุฯ ติดต่อให้มาช่วยขับรถเทรลเลอร์ไปที่บริเวณชายแดนทางภาคเหนือ โดยตนพึ่งมาขนยาเสพติดเป็นครั้งแรก ส่วนเงินค่าจ้างนั้นยังไม่ได้รับเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมก่อน
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน