ชายล้มทั้งยืน สูญเงินเกลี้ยงบัญชี เพราะ ภาพถ่าย ที่หลายคนมีในโทรศัพท์มือถือ โดยไม่รู้ถึงอันตราย (ข่าวตปท.)

ชายล้มทั้งยืน สูญเงินเกลี้ยงบัญชี เพราะ ภาพถ่าย ที่หลายคนมีในโทรศัพท์มือถือ โดยไม่รู้ถึงอันตราย (ข่าวตปท.)

เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ต่างประเทศ SOHA ได้มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์เตือนภัย เมื่อชายรายหนึ่งจากประเทศจีน ได้ประสบพบเจอกับความช็อกทางการเงินครั้งใหญ่โดยไม่คาดคิด เมื่อเงินจำนวน 100,000 หยวน หรือประมาณ 466,300 บาท ในกระเป๋าสตางค์ดิจิตอล ถูกขโมยไปหลังจากที่เขาทำโทรศัพท์มือถือหายเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ในตอนแรกนั้น เขาคิดว่าการที่มือถือหายเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อเขาใช้โทรศัพท์ของภรรยาในการเข้าสู่ระบบบัญชีกระเป๋าสตางค์ดิจิตอลของตนเอง กลับพบว่า เงินหายเกลี้ยง ซึ่งนั่นทำให้เขาตกใจและสับสนเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจเลยว่า ใครจะสามารถถอนเงินได้โดยไม่รู้รหัสผ่าน เขาจึงรีบแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบทันทีทันใด

หลังจากการติดตามสืบสวนมาเป็นเวลา 2 วัน ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ขโมยเงินไปเพื่อใช้หนี้ และเติมเงินในบัญชีเกมออนไลน์ ซึ่งในระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหาได้การรับสารภาพว่า ในตอนแรกเขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะขโมยเงินเลย แต่เมื่อสามารถเปิดโทรศัพท์ได้ด้วยรหัสผ่าน 1234 ที่ง่ายเกินไปจนแทบไม่อยากเชื่อ ก็ทำให้เริ่มเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมา

ยิ่งเมื่อลองตรวจสอบในแกลอรี่รูปภาพในโทรศัพท์ พบว่าเจ้าของเครื่องได้บันทึกรูปภาพ บัตรประชาชน ไว้ครบทั้งสองด้าน ซึ่งข้อมูลส่วนตัวนี้เอง ทำให้ผู้ต้องหารายนี้สามารถเข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านกระเป๋าสตางค์ดิจิตอลได้อย่างง่ายดาย และโอนเงินทั้งหมดออกไปโดยไม่ต้องทำการยืนยันใด ๆ

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนจากความประมาท เป็นการเตือนภัยที่ชัดเจนมาก ๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการสูญเสียเงินเมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกเปิดเผย เพราะปัจจุบันหลายคนมีนิสัยถ่ายเอกสารที่เป็นข้อมูลประจำตัว เช่น บัตรประชาชน, ใบขับขี่, ทะเบียนบ้าน หรือบัตรธนาคารเก็บไว้ในโทรศัพท์เพื่อสะดวกในการใช้เมื่อจำเป็น แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็น ขุมทรัพย์ สำหรับผู้ไม่หวังดีหากอุปกรณ์ถูกขโมยหรือถูกแฮ็ก

นอกจากนี้ การตั้งรหัสผ่านโทรศัพท์ที่ง่ายเกินไปก็เป็นช่องโหว่ใหญ่ ตัวเลขรหัสที่ใช้บ่อย เช่น 1234 , 0000 หรือ วันเกิดนั้น ล้วนเป็นชุดเลขที่เสี่ยงจะถูกแฮกอย่างง่ายดาย ทำให้โทรศัพท์สูญเสียการป้องกันที่สำคัญตั้งแต่ขั้นแรก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ