ยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งพัสดุทั่วโลก ปลดพนักงานครั้งใหญ่ 8,000 คนตกงานปี 68

ยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งพัสดุทั่วโลก ปลดพนักงานครั้งใหญ่ 8,000 คนตกงานปี 68

เมื่อวันที่ มีนาคม เพจ BTimes ได้เผยว่า ปลดกระหึม! ดีเอชแอล(DHL) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจขนส่งพัสดุทั่วโลก ปลดพนักงานครั้งใหญ่ 8,000 คนตกงานปี 68 คาดประหยัดเงินกว่า 36,000 ล้านบาท ดีเอชแอล(DHL) ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจบริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ และโลจิสติกส์ชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานจำนวนมากถึง 8,000 คน หรือคิดเป็นกว่า 1% ของพนักงานที่อยู่ในประเทศเยอรมนีภายในปี 2025 นี้ สาเหตุจากนโยบายการตัดลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานในประเทศเยอรมนีถือเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างและควบคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดีเอชแอล คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ดีเอชแอลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายภายในปี 2027 ได้มากกว่า 1,000 ล้านยูโร หรือ 1,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 36,720 ล้านบาท ในด้านผลประกอบการของดีเอชแอล พบว่า ผลการดำเนินงานด้านกำไรจากการปฎิบัติงานตกต่ำลงถึง -7% ขณะที่สหภาพแรงงานมีชื่อว่าเวอร์ดี้ ได้ตำหนิแผนการปลดพนักงานดีเอชแอลในประเทศเยอรมนี และปฏิเสธว่าสาเหตุในการปลดพนักงานจำนวนมากในครั้งนี้เป็นผลมาจาก

เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมามีการเจรจาข้อตกลงค่าจ้างที่ลงตัวกับบริษัทดีเอชแอล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นายโทเบียส เมเยอร์ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ข้อตกลงค่าจ้างดังกล่าวนั้น ทำให้กลายเป็นต้นทุนของดีเอชแอลในปี 2015 นี้ สูงถึง 360 ล้านยูโร หรือกว่า 13,104 ล้านบาท และเป็นสาเหตุในการตัดสินใจนำไปสู่ในการปลดพนักงานดีเอชแอลในเยอรมนี พาราช เจน หัวหน้าสายงานวิเคราะห์โลจิสติกส์ และการขนส่งโลก ธนาคารเอชเอสบีซี เปิดเผยว่า

ดีเอสแอลจะต้องเผชิญกับกำไรที่ชะลอตัวลงในปี 2025 นี้ เนื่องจากความต้องการในการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ชะลอตัวลง รวมถึงภาวะเครือข่ายซัพพลายเชนตึงตัวที่มีสัญญาณผ่อนคลายลง ในขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทดีเอชแอลเมื่อปีผ่านมา มีราคาตกต่ำ และกลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ย่ำแย่มากกว่าบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันโดยทั่วไป สำหรับราคาหุ้นของดีเอสแอลตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้มีราคาร่วงลงเกือบ 11% ทั้งนี้หลังจากที่บริษัทดีเอชแอลได้ประกาศแผนการตัดลดค่าใช้จ่ายโดยการปลดพนักงานถึง 8000 คนดังกล่าวนั้นส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจในทิศทางและอนาคตของดีเอชแอลจึงส่งผลให้ราคาหุ้นของดีเอชแอลพุ่งสูงขึ้นถึง 10% ทำสถิติสถิติราคาหุ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีผ่านมา

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ