รวบตัวการใหญ่ หลอกชาวบ้านเปิดบัญชีม้า หลังรับออเดอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน

รวบตัวการใหญ่ หลอกชาวบ้านเปิดบัญชีม้า หลังรับออเดอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธ์ สว.กก.4 บก.ป., ด.ต.เกียรติเฉลิม รักษ์งาม,ด.ต.สิทธิโชค สีแดง, ส.ต.อ.อธิเบศร์ พรหมสิทธิ์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสุรเชษฐ์ฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.158/2567 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก หรือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่น โดยประการที่รู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณวัดแห่งหนึ่ง ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ได้มีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2566 ผู้ต้องหากับพวก ได้ร่วมกันฉ้อโกงผู้เสียหาย โดยปกปิดว่าจะให้กู้เงิน แต่ถูกหลอกให้โอนเงินไป จนสูญเสียเงินไป หลายหมื่นบาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินดคีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ดำเนินการสืบสวนจนพบว่า นายสุรเชษฐ์ฯ ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จากการสืบสวนพบว่านายสุรเชษฐ์ฯ จะเดินทางออกไปทำงานช่วงเช้าทุกวัน จึงไปตรวจสอบดู พบนายสุรเชษฐ์ฯ ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านบริเวณวัดแห่งหนึ่ง ม.3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิ ให้นายสุรเชษฐ์ฯ ทราบ และเชิญตัวมาทำบันทึกที่ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

หลังการจับกุมผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหาเป็นตัวการใหญ่ในการเปิดบัญชีม้าโดยนำบัญชีเจ้าตัวเกือบ 10 บัญชี ไปขายต่อ ในราคา 10,000 บาทต่อบัญชี และยังใช้กลอุบายให้ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเปิดบัญชีให้อีกจำนวนมาก โดยบัญชีทั้งหมดจะถูกนำไปให้ผู้ว่าจ้างจากประเทศเพื่อนบ้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลาย 10 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ