
ทักษิณ เยือนชายแดนใต้ ลงพื้นที่ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ย้ำแนวราชพระราชดำริ ในหลวง ร.9 เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ยังเป็นหลักการสำคัญ และยังต้องพูดคุยกับผู้เห็นต่างให้มาแก้ปัญหาร่วมกัน
วันนี้ (23 ก.พ.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เดินทางถึงวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พร้อมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เพื่อกราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และจะพบปะกับผู้นำท้องถิ่น และผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ เพื่อหารือถึงการพัฒนาในพื้นที่ โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงศ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอบต.และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้วย
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ครั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน และอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเองว่าเป็นสถานการณ์เป็นอย่างไรและมาสานงานที่ทำไว้เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรีก็อยากจะเห็นว่าเมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นและการดูแลแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากก็ยังไม่ยุติเสียที มันก็ควรจะยุติได้ในสมัยที่รัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเพื่อไทยและลูกสาวผมเป็นนายกรัฐมนตรี
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า อยากเห็นการทำงานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าเราอยากเห็นการแก้ปัญหาร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นนี้เมื่อก่อนนี้ตอนสมัยตนเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เราจะน้อมนำแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาล 9 เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ซึ่งตนคิดว่ายังเป็นหลักการที่สำคัญ
"เข้าถึงจิตใจว่าพวกเขาคิดอย่างไร เมื่อเข้าถึงแล้วเพื่อให้เขาพูดความจริงก่อนเมื่อความเค้าพูดความจริงแล้วเราต้องเข้าใจเป้าหมายร่วมกัน ร่วมกันพัฒนาในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้ในการที่จะแก้ปัญหาภาคใต้ ณ.วันนี้ ผมเข้าใจว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่ถูกต้องเลยอยากมาฝากกับน้องๆว่าเราลองหยุดหายใจสักระยะ เรามัวอยู่กับเหตุการณ์ที่เคยมีมา 20 ปีแล้วให้กลับมาดูว่าเราจะเข้าถึงหรือแค่ไหนและเข้าใจมาคิดร่วมกันว่าจะทำให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อย่างสันติสุข นั่นคือหลักการที่ผมมาที่นี่"
นายทักษิณ กล่าวย้ำว่า ตนเชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา ตนเชื่อว่าปัญหามีทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้เห็นต่างและฝ่ายข้าราชการ ดีที่สุดคือการพูดคุย ซึ่งตนได้เริ่มต้นการพูดคุยด่วยการที่ตนเองไปที่มาเลเซียในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พบกับผู้ที่เห็นต่างทั้งหลายที่อยู่ในมาเลเซีย ได้มีการพูดคุยกัน พวกเขาบอกอยากกลับบ้าน แล้วเมื่อไหร่จะได้กลับ แสดงเห็นว่าทุกฝ่ายพร้อมจะหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่
"หลายคนในวันนั้นที่ได้ส่งตัวแทนมามาคุยกับผมที่ต่างประเทศก็ได้มาคุยกัน คิดว่าวันนี้แนวทางในการพูดคุย ยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องอยู่ เราต้องพูดคุยในระดับระดับท้องถิ่นระดับชาวบ้าน จนถึง ระดับข้าราชการที่ต้องพูดคุยกัน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มเห็นต่าง นี่คือสิ่งที่ผมว่าเป็นแนวทางที่อยากเห็น"
นายทักษิณ กล่าวย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมาความล้มเหลวของการบริหารก็คือเศรษฐกิจที่แย่เมื่อเศรษฐกิจที่แย่สิ่งที่ทำมาคือยาเสพติดสิ่งยาเสพติดเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ทั้งชาวพุทธและมุสลิมก็อยากจะขอให้เริ่มยาเสพติดเป็นวาระสำคัญที่เราจะต้องจัดการเพราะในเมื่อคนใช้ยาเสพติดมากก็ไม่มีความยังคิดย้ำทำ ก็อยากฝากให้ทุกท่านแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน