คุมตัวทำแผน ดับพ่อแม่ลูกในรถ โน้ต ขอโทษ ส่วน เข้ เข่าอ่อน ไม่คิดว่าจะมาเป็นผู้ต้องหาร่วม

คุมตัวทำแผน ดับพ่อแม่ลูกในรถ โน้ต ขอโทษ ส่วน เข้ เข่าอ่อน ไม่คิดว่าจะมาเป็นผู้ต้องหาร่วม

จากเหตุสะเทือนขวัญ พบ 3 พ่อแม่ลูกถูกฆาตกรรมอำพรางในรถกระบะ มีผ้าคลุมมิดชิดและจอดทิ้งไว้บริเวณบ้านร้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาตัวคนร้ายได้ในที่สุด พร้อมนำตัว 'นายโน้ต' และ 'นายเข้' มาจำลองเหตุการณ์การก่อเหตุ พร้อมทำการสอบเส้นทางที่ใช้ในการก่อเหตุจนมาถึงจุดที่นำศพมาทิ้งในบ้านร้าง ช่วงที่กลับขึ้นมายัง สภ.คลองขลุงนั้น นายโน้ตได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รับปมสังหารเพียงเงิน 150,000 บาทเพียงเรื่องเดียว ไม่ได้มีมูลเหตุอื่น ส่วนเรื่องเด็ก ตนก็ไม่ได้ตั้งใจ

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็รู้สึกผิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พานายโน้ตมาจำลองเหตุการณ์ โดยหลังจากนั่งรถมากับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยพ่อเด็กเป็นคนขับรถ มีเด็กชายและเมียนั่งมาด้วยด้านหน้า ส่วนนายโน้ตนั่งมาเบาะหลัง เมื่อรถมาถึงจุดเกิดเหตุเริ่มมีปากเสียงกันเรื่องเงิน ตนจึงเปิดลิ้นชักตรงกลางระหว่างที่นั่งคนขับ พร้อมหยิบปืนออกมา จากนั้นจึงลงจากรถมาพูดคุยตกลงเรื่องเงินบริเวณหน้ารถ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ตนจึงยกปืนพร้อมขึ้นลำทำท่าจ่อยิงฝ่ายชาย แต่เกิดการแย่งปืนกันขึ้น ทำให้ปืนลั่นไปถูกศีรษะฝ่ายชายแต่ยังไม่เสียชีวิต ตนจึงมาเรียกภรรยาฝ่ายชายให้ลงมาช่วยยกตัว แต่เมื่อลากมาถึงประตูหลัง ยกขึ้นไม่ไหว

จึงโทรศัพท์เรียกนายเข้มาช่วยยก ก่อนจะไล่ให้นายเข้กลับบ้านไปและแยกย้ายกัน ตนเอาปืนจี้บังคับให้เมียและลูกฝ่ายชายขึ้นมาบนรถ จากนั้นจึงมีปากเสียงและยื้อแย่งปืนกัน ปรากฏว่าปืนลั่นไปถูกศีรษะลูกชายที่นั่งบนตักแม่เสียชีวิตคาที่ จากนั้นผู้เป็นแม่ได้โวยวาย ด้วยความโมโห ตนจึงตัดสินใจยิงผู้เป็นแม่เสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย ก่อนจะขับรถนำศพมาทิ้งบริเวณบ้านร้าง ซึ่งหลังจากนั้น 5 วัน ได้ไปซื้อผ้าคลุมมาคลุมรถไว้เพื่ออำพราง จนมีผู้มาพบเห็นและความจริงถูกเปิดเผยดังกล่าว

ส่วนนายเข้ยืนหน้าซีดเข่าอ่อนระหว่างรอนายโน้ตจำลองเหตุการณ์ โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ถ้าถามว่าตนรู้สึกผิดมั้ย ตนก็รู้สึกผิด ไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกันแบบนี้ ตอนนายโน้ตโทรชวน ปฏิเสธแล้วว่าพ่อกับแม่ไม่ให้ไป เมียไม่ให้ไป แต่ก็ตามให้ตนออกไปช่วย ตนจึงออกไป พอเจอเหตุการณ์ตรงนั้น กลัวจนหนีไปไหนไม่ได้แล้ว มันต้องเอาตัวรอดแล้ว เมื่อช่วยนายโน้ตเสร็จแล้วก็ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปคนละทาง ถามว่าอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตไหม ใจจริงอยากขอโทษตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันกลัว ส่วนที่ว่าทำไมเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วไม่แจ้งความ ตนรู้สึกกลัว มันกลัวไปทุกอย่าง หลังเกิดเหตุการณ์ นายโน้ตพยายามติดต่อมาแต่ตนก็พยายามที่จะไม่คุยด้วย ทั้งนี้ช่วงที่ตนไปนั้นยังพบว่าลูกเมียของฝ่ายชายยังอยู่ภายในรถ ซึ่งหลังจากแยกย้ายกันไป ตนก็ไม่รู้ว่านายโน้ตไปยิงจนเสียชีวิตอีก 2 คน ขณะให้สัมภาษณ์อยู่นั้น จู่ๆ นายเข้ก็รู้สึกเป็นลม เข่าอ่อนทรุดตัวลง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องนำเก้าอี้มาให้นั่งพัก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ