
จ่อออกหมายจับ ชายที่อยู่กับ น้องไอ คนสุดท้าย
วันนี้ (16 ก.พ.68) ที่สน.โชคชัย น.ส.เสาวนีย์ แม่ของ น.ส.ไอรดา อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมพี่สาวเดินทางมายัง สน.โชคชัย เพื่อแจ้งความดําเนินและเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวหลังพบเสียชีวิตภายในในโรงแรมแห่งหนึ่งซอยโยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยพี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวเพิ่งทราบว่าน้องรับงานแบบนี้ตอนที่ตํารวจโทรมาแจ้งว่าพบศพซึ่งที่ผ่านมารู้ว่าน้องทํางานประจําอยู่ที่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นงานพาร์ทไทม์ โดยน้องมีปัญหาส่วนตัวและได้เลิกกับแฟนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 67 จากนั้นได้ย้ายมาอยู่คนเดียวที่หอและมีการโทรมาขอเงินที่บ้านบอกว่าจะนําไปจ่ายค่าหอแต่ทางบ้านไม่มีให้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าน้องรับงานนี้เป็นครั้งแรกเพราะก่อนเสียชีวิตน้องอยู่กับตนที่ จ.ร้อยเอ็ด และไม่มีอาการของคนติดยาหรือพูดถึงงานดังกล่าวรวมถึงที่ผ่านมาก็ไม่มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
โดยคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 01.30 น. น้องบอกกับแฟนคนปัจจุบันว่าจะออกไปทํางานแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นงานอะไร ส่วนเหตุผลที่ครอบครัวรีบทําพิธีฌาปนกิจนั้นเนื่องจากไม่มีเงินจึงได้ไปกู้ยืมมาประกอบกับทางวัดได้ช่วยเหลือบางส่วนจึงจัดงานศพให้น้องเพียงวันเดียวและเผาไปเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่าครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ ทางพี่สาว ระบุว่า ติดใจตรงที่เพื่อนน้องบอกว่าน้องไม่เคยเล่นยาหรือรับงานแบบนี้มาก่อน แต่ครอบครัวไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันว่าน้องไม่เล่นยาเพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่ในห้องเกิดเหตุและอยู่ตํารวจทั้งหมด
เบื้องต้นอยากได้หลักฐานของน้องคืนทั้งหมด เช่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเคยขอไปแล้วแต่ทางตํารวจแจ้งว่ายังให้ไม่ได้ต้องรอคดีสิ้นสุดก่อน
นอกจากนี้พี่สาวของผู้เสียชีวิตยอมรับว่ามีการประสานจะเยียวยาให้ครอบครัวเพื่อจบเรื่อง โดยรอบแรกเป็นโมเดลลิ่งคนที่ 1 โทรติดต่อมาบอกว่าทางฝ่ายชายต้องการเยียวยาค่าทําศพ 100,000 บาท แต่แนะนําให้เรียกเพิ่มซึ่งฝ่ายชายจะส่งทนายมาเป็นตัวแทน จากนั้นมี โมเดลลิ่งที่สองติดต่อมาอีกในข้อเสนอเดิมแต่เพิ่มเป็น 200,000 บาท ซึ่งตนยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอและยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
พี่สาวของผู้เสียชีวิต ยังกล่าวอีกว่า มีตํารวจพูดถึงเรื่องเงินเยียวยาทํานองว่า มีให้เลือก 2 ทาง คือ ให้รับเงินเยียวยาโดยตํารวจจะเป็นตัวกลางเสนอที่ 500,000 บาท หรือจะไม่รับและไปสู้ในชั้นศาลซึ่งน้องที่เสียชีวิตเป็นคนรับงานเองก็ถือว่ามีส่วนผิดอีกฝั่งอาจจะไม่ต้องเยียวยาก็ได้ต่อให้สู้ก็ไม่มีสิทธิที่จะชนะคดี
ทั้งนี้เพิ่งทราบเมื่อวานว่าโมเดลลิ่งมีแฟนเป็นตํารวจและรู้จักกับตํารวจที่รับเรื่องคดีจึงรู้สึกแปลกๆเพราะเรื่องเงียบจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทําให้วันนี้ตนออกมาเพื่อจะสู้และยืนยันจะดําเนินคดีจนถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องสาว
โดยล่าสุด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. (น.1) สั่งล่า ชายชาวจีน ผู้ต้องหา บังคับ “น้องไอ” อัพยาเสียชีวิต เร่งสอบปากคำ โมเดลลิ่ง เจ้าของงาน พร้อมกำชับหากพบตำรวจบกพร่องหรือมีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทางวินัยและอาญาทันที
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน