เมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 11 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีกลิ่นคล้ายแก๊สรั่วออกมาจากโรงผลิตน้ำแข็งแห่งหนึ่ง (ชื่อพรหมบุรี 3) เลขที่ 72 หมู่ 6 ติดถนนสายคันคลองชลประทานลพบุรี บ้านหมี่ ต.ถนนใหญ่ อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี หลังจากที่ได้รับแจ้ง จึงได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เร่งเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายรัชพล เกียรติวินัยสกุล นายเทศมนตรีตำบลถนนใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช, เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี และรถน้ำดับเพลิงจำนวน 4 คัน

ที่เกิดเหตุพบว่า เป็นโรงงานผลิตน้ำแข็งขนาดใหญ่รายหนึ่งของเมืองลพบุรี ซึ่งมีคนงานหอบหิ้วลูกหลาน ครอบครัวที่กำลังหลับสนิท วิ่งหนีออกมายืนอยู่ที่บริเวณริมถนนด้านหน้าของโรงงานดังกล่าวด้วยท่าทางตื่นตกใจ โดยเล่าว่า ได้มีกลิ่นแก๊สแอมโมเนียที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งรั่วไหลออกมาส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวน คนงานที่ส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า ที่กำลังนอนอยู่ที่ห้องพักต่างพาครอบครัววิ่งหนีออกมา เนื่องจากกลิ่นเหม็น และเกรงว่าจะเกิดไฟไหม้ โดยไม่ได้หยิบสิ่งของติดตัวออกมาเลย เพียงต้องการพาครอบครัวหนีตายเท่านั้น

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลพบุรี  ได้สวมชุดป้องกันและดำเนินการเคลื่อนย้ายคนงานคัดกรอง พร้อมกับนำคนงานและครอบครัวทั้งหมดกว่า 30 ชีวิต มายังโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช พร้อมทั้งกั้นเขตไม่ให้ผู้ที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเข้าใกล้ โดยได้นำไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาเข้าห้องฉุกเฉินตรวจดูร่างกายในเบื้องต้น

ทางด้าน นายรัชพล เกียรติวินัยสกุล นายเทศมนตรีตำบลถนนใหญ่ ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้สั่งให้ปิดโรงงานรอการตรวจสอบ จากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความปลอดภัยก่อน สำหรับโรงงานน้ำแข็งพรหมบุรี 3 ตามชื่อที่จดทะเบียนเป็นของ นายอู่ทอง จ๋วงพานิช ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เชิญตัวมาสอบปากคำถึงรายละเอียดและสาเหตุของการเกิดแก๊สรั่วไหลในครั้งนี้ต่อไป สำหรับคนงานและครอบครัวที่อยู่ในโรงงานได้ถูกนำตัวไปรักษาตรวจดูอาการที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช เป็นผู้ใหญ่ 22 ราย เด็ก 8 ราย และโรงพยาบาลอานันทมหิดลอีกจำนวน 10 ราย รวมทั้งสิ้น 40 ราย

ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี รายงาน