วันที่ 11 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางโสภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ว่า หลังท้อใจซื้อบ้านมาจากการขายทอดตลาดของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพัทลุง ในราคากว่า 2 ล้านบาท

แต่เมื่อกำลังเข้าปรับปรุงพื้นที่เพื่อจะเข้ามาอยู่ในวันที่ 7 มี.ค.2568 กลับถูกเจ้าของบ้านหลังเดิมแจ้งข้อหาบุกรุก ทั้งที่บอกว่าซื้อมาโดยชอบตามกฎหมาย พร้อมทั้งนำเอกสารการชื้อการโอนบ้านพร้อมที่ดินมาแสดงเป็นหลักฐาน

นางโสภา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของน้าสาว ซึ่งเป็นน้องของแม่ นางรำพึง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของ แต่ถูกบริษัทไฟแนนซ์รถ แจ้งความในคดีเพ่ง หลังจากซื้อรถแล้วเอาบ้านที่ดินเป็นหลักประกัน

จนถูกสำนักงานบังคับคดี บังคับขายบ้านพร้อมที่ดินจำนวน 3 ไร่ 3 งาน เป็นเงิน 1,310,000 โดยให้สิทธิเจ้าของเดิมซื้อ แต่น้าสาวไม่ได้ซื้อกลับ จนนายวุฒิพงษ์ ได้ซื้อต่อจากสำนักงานบังคับคดี

ตนในฐานะหลานเห็นว่าไม่อยากให้ที่ดินเดิมที่เป็นสมบัติของตากับยายไปตกในมือของคนอื่น เลยขอชื้อต่อมาจาก นายวุฒิพงษ์ กลับมาในราคา 2 ล้านบาท รวมเสร็จสิ้น ค่าโน่นค่านี่รวม 2,250,000 บาท

โดยในที่ดินและบ้านจากนางรำพึงน้าสาว โอนมาเป็นของนายวุฒิพงษ์ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2567 และตนได้ขอชื้อต่อจากนายวุฒิพงษ์ โดยโอนที่ดินเป็นชื่อตนเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 พร้อมทั้งจ่ายเงินให้นายวุฒิพงษ์ในวันเดียวกันหลังทำสัญญาเงินกู้จากธนาคารได้

ต่อมาหลังจากได้บ้านและที่ดินแล้ว ได้ว่าจ้างคนงานไปตัดหญ้า และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สะอาดขึ้น กลับถูกนางรำพึงซึ่งเป็นน้าสาวแจ้งความในข้อหาบุกรุก ที่ สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ตนก็รู้สึกตกใจ ทั้งที่บ้านและที่ดินได้มาถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อทำความสะอาดบ้านแล้วจะขึ้นอยู่ในวันที่ 7 มี.ค.2568

สุดท้าย ท้อใจเลย เงินที่กู้มาก็มีดอกเบี้ย แถมบ้านที่ชื้อก็ไม่ได้อยู่ แล้วต้องมาแบกรับภาระหลายอย่าง พร้อมทั้งต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีกหลายทอด รู้สึกว่าการซื้อบ้านหลังดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับตนเอง กฎหมายการใช้บังคับคดีตนก็งง

แล้วสุดท้ายกว่าจะได้ขึ้นอยู่บ้านของตัวเองที่ซื้อจะต้องฟ้องร้องต่อศาลกันอีกนานแค่ไหน รู้สึกท้อกับเรื่องราวดังกล่าว ความเอ็นดูเขา แต่เอ็นเราขาดไม่น่าเลย จึงร้องผู้สื่อข่าวให้ช่วยเหลือ

ด้าน ยายของนางโสภา กล่าวด้วยความงงเช่นกันว่า นางโสภาซื้อบ้านพร้อมที่ดินจากบังคับคดีจังหวัดพัทลุงที่ขายทอดตลาด แต่สุดท้ายเงินก็จ่ายไปแล้ว สัญญาก็ทำถูกต้องแล้ว ตนก็ยังงง ๆ ว่าทำไมยังเข้าอยู่ไม่ได้ ต้องฟ้องศาลเล่นความจ่ายค่าทนายเพิ่มอีก เพื่อให้ศาลบังคับให้เจ้าของบ้านเดิมย้ายออกไป กระนั้นหรือ