กยศ.จ่อฟ้องลูกหนี้ 3.1หมื่นราย พบ 4 แสนคน รายได้สูงแต่ไม่จ่าย

กยศ.จ่อฟ้องลูกหนี้ 3.1หมื่นราย พบ 4 แสนคน รายได้สูงแต่ไม่จ่าย

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยศ. ได้มีการบอกเลิกสัญญาผู้กู้ยืม เนื่องจากไม่ชำระเงินคืนตามสัญญา และกำลังจะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี ประมาณ 31,000 ราย จำนวนทุนทรัพย์กว่า 2,800 ล้านบาท จึงขอแนะนำให้ผู้กู้ยืมมาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี

โดยชำระเงินงวดสุดท้ายได้ถึงอายุ 65 ปี และเมื่อผู้กู้ยืมชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้น กยศ. จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100% ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือบังคับคดี

แต่หากผู้กู้ยืมยังเพิกเฉย กยศ. มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีต่อไป

นอกจากนี้ กยศ. ยังตรวจพบว่ามีกลุ่มผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในการชำระหนี้ โดยเป็น ผู้มีเงินฝากหรือมีรายได้สูงประมาณ 400,000 ราย ซึ่งหากผู้กู้ยืมกลุ่มนี้ไม่ติดต่อชำระหนี้หรือทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้จัดการกองทุนฯ เปิดเผยต่อไปว่า กยศ. มีความจำเป็นต้องฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามกฎหมายกับผู้กู้ยืมที่ไม่ชำระหนี้และไม่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐได้รับความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับผู้ขาดแคลนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

โดยผู้กู้ยืมทุกรายมีหน้าที่ต้องชำระเงินคืนเพื่อให้เงินทุกบาทตกทอดแก่นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อไปที่ยังรอโอกาสอีกจำนวนมาก

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ