เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 15.30 น.ภายใต้การอำนวยการของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบนภายใต้การนำของ นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกกระทุ่มแบน พร้อมด้วย นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ว่าที่ร้อยตรี พรชัย วรสาตร์ ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เรือตรี นิติพัฒน์ ซื่อดี ปลัดเภอกระทุ่มแบน นายกิตติวุฒิ ฉัตรวรคุณ ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน  นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน นายฐิติวัชร์ วารีรัตน์ภากร สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ร่วมกับปลัด อบต.ท่าไม้ ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัด ผู้แทนจัดหางานจังหวัด และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงสถานประกอบการที่ถูกร้องเรียนในเรื่องของการปล่อยน้ำออกมาหน้าบริเวณโรงงานฯ แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และกองขยะจำนวนมากหน้าบริเวณโรงงานฯ ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

ซึ่งจากการสนธิกำลังกันเข้าตรวจในครั้งนี้ ก็พบว่า โรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าวมีชื่อว่า บริษัท ออโรร่า คลีนนิ่ง จำกัด ตั้งอยู่ที่ 327 หมู่ 4 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีการประกอบกิจการทำน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม อีกทั้งภายในบริเวณอาคารมีเครื่องจักรสำหรับฉีดเม็ดพลาสติก ขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์สำหรับกระบวนการผลิต ขณะที่จากการขอตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัทฯ ปรากฎว่าไม่มีใบอนุญาต รง.4 ใบอนุญาต อภ.2 และตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่พบทะเบียนสินค้า นอกจากนี้ยังมีอาคารโรงงานข้างเคียงเป็นพื้นที่ผลิตโคมไฟ LED ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากจีน

แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีกระบวนการผลิตโคมไฟในพื้นที่ โดยไม่มีมาตรฐาน มอก. และในขณะตรวจสอบพบแรงงานต่างจำนวน 23 คน จำแนกเป็นเมียนมา 20 คน และคนจีน 3 คน จึงได้นำทั้งหมดส่งให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำการตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่มีความผิดจำนวน 13 คน จึงได้แจ้งข้อกล่าวตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ตามมาตรา 81 และ พรก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2561 ฉบับที่ 2 ตามมาตรา 8 ส่วนสถานประกอบการกรณีที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน รง.4  ได้มีการสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 การตั้งโรงงานและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 วรรคหนึ่งและวรรคสอง อันมีบทกำหนดโทษตาม มาตรา 50 วรรคหนึ่ง ของพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมกันนี้ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้ติดประกาศคำสั่งและประทับตราห้ามใช้เครื่องจักรในพื้นที่ ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้ ออกคำสั่งให้ปิดดำเนินการ 15 วัน เนื่องจากไม่มีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (อภ.2) และทางด้านนของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มดังกล่าว ไปตรวจสอบอีกครั้งว่าได้ขออนุญาตตามกฎหมายถูกต้องหรือไม่ หากไม่มีการดำเนินการจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าด้วยว่า สำหรับน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มที่บางบริษัทฯ แห่งนี้ลักลอบผลิตนั้น ได้มีการโพสต์ขายในโลกโซเชียลที่เป็นที่นิยมและเข้าถึงมากที่สุดของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี มีลูกค้าเข้าไปกดดูและสั่งซื้อขายดิบขายดีขายได้เป็นจำนวนมาก

ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสมุทรสาคร รายงาน