
ตำรวจไซเบอร์ รวบผู้หมวดสังกัดกองร้อยปอยเปต อ้างตำรวจมุกดาหาร วิดีโอคอลตุ๋นเหยื่อโอนเงิน
วันที่ 6 ก.พ. 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รร.ผบก.สอท.1 ร่วมกันแถลงผลการจ้บกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจมุกดาหาร วิดีโอคอลตู๋นเหยื่อโอนเงิน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ติดต่อมาหาผู้เสียหายหลายราย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศร้อยตำรวจโท สังกัด สภ.เมืองมุกดาหาหาร ใช้อุบายสอบถามว่าได้เปิดบัญชีธนาคาร ที่ จ.มุกดาหาร ไว้หรือไม่ เนื่องจากมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้การซัดทอดว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย โดยให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแจ้งยอดเงินในบัญชีที่มีทั้งหมดทุกบัญชี และให้โอนเงินมาตรวจสอบ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
โดยเมื่อเดือนกันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 ได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายอนุวัติ อายุ 23 ชาว จ.เชียงราย มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่ในการโทรศัพท์และวิดีโอคอลกับผู้เสียหาย ทำหน้าที่สาย 2 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับที่ 4769/2567 ลงวันที่ 27 กันยายน 2567
ในความผิดฐาน ร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, อั้งยี่ ซ่องโจร, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 สืบทราบว่าบว่านายอนุวัติฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้ประสานงานกับทหารต้นสังกัดเข้าจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอนุว้ติ ให้กานยอมรับว่าตนเป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายจริงโดยให้ข้อมูลว่า เมื่อประมาณปิ 2566 ผู้ต้องหาได้รับการชักชวนให้ไปทำงานที่ปอนเปต ก้มพูชา โดยทราบว่าเป็นงานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ แต่เมื่อไปถึงกลับได้รับมอบหมายให้ทำงานในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในขบวนการนี้มีทั้งคนไทยและคนจีนเป็นผู้ควบคุม และได้มีการกำหนดสศริปต์ในการหลอกลวงเหยื่อตามบทบาทที่แต่ละคนได้รับ
อีกทั้งผู้ต้องหายังให้ข้อมูลว่า จะได้รับค่าตอบแทนในการทำงานเป็นเงินเดือน เดือนละประมาณ 50,000 บาท และยังได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมอีกประมาณ ร้อยละ 3 - 5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนเงินที่สามารถหลอกลวงได้ในแต่ละครั้ง ทำให้มีรายได้นับแสนบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ จากการขยายผลพบความเชื่อโยงที่นายอนุวัติก่อเหตุหลอกเหยื่อมากกว่า 100 ราย รวมทั้ง น.ส.ปวีณามัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวช่อง3 ที่ถูกหลอกให้กดลิงก์ดูเงินกว่า 1 ล้านบาท ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน