จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 68 นายฟิล์ม (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี และน.ส.เฟิร์น (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สามีภรรยา พาลูกสาว คือ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เพื่อนลูกสาว เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกชายมีอายุ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) มีอาการมึนเมา ลวนลามลูกสาวกับเพื่อนในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง อ.ปากเกร็ด หลังก่อเหตุชายคนดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวที่ในลานจอดรถของร้านนวด โดยมีนายฟิล์ม พ่อของ ด.ญ.เอ ผู้เสียหาย วิ่งไล่ติดตามไปก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่รปภ.ของร้านนวด ช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. ปากเกร็ดตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านสะดวกซื้อพบว่าทางผู้ก่อเหตุไม่ได้มีพฤติกรรมลวนลามเด็ก แค่เป็นลักษณะเดินสวนกันในที่แคบ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายทราบแล้ว ส่วนชายที่โดนจับสติไม่ดีวันที่โดนจับกุม มีความกลัวหวาดผวาเลยวิ่งหนีตำรวจ เบื้องต้นตอนนี้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานในการก่อเหตุ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 35 (ซอยทางเข้าหมู่บ้านจรรยานิเวศน์) ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่เด็กหญิงวัย 12 ปี ทั้งสองคนถูกชายอายุประมาณ 40 ปี ก่อเหตุ  จากการตรวจสอบพบว่า หลังเกิดเหตุผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีจากจุดดังกล่าวไปเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร จนกระทั่งไปซ่อนตัวอยู่บริเวณ เฮลท์แลนด์ แจ้งวัฒนะ ภายในซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 33 ซึ่งเป็นจุดที่พ่อเลี้ยงของเด็กหญิงผู้เสียหายติดตามไล่ล่ามาจนพบตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบถาม น.ส.เฟิร์น นามสมมุติ กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าต้องรอผลตรวจ แล้วต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจนัดญาติตัวผู้ก่อเหตุมาด้วย จะต้องมีการคุยกับตน ถ้าเขาไม่ได้ป่วยจิตตนตะเอาเรื่องถึงที่สุด แต่ถ้าเขาป่วยจิตจริงจะต้องปล่อยไป ให้เขาไปรักษาตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าดูจากกล้องวงจรปิดแล้วไม่ใช่การลวนลาม ซึ่งตนได้เห็นภาพแล้วเป็นการเดินสวนกันและมือโดนลูกสาวตน

ตนยืนยันว่าเป็นการลวนลามอย่างแน่นอนเพราะเขาเคยทำแบบนี้มาก่อน เค้าก็ทำแบบเดิมพฤติกรรมเดิม เชื่อว่าเขาทำจริงๆ เพราะกล้องวงจรปิดเป็นการตวัดมือขึ้นมาลูป ตนเชื่อว่าไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจเพราะเพื่อนของลูกสาวครั้งที่แล้วโดนมือตวัดถึงหน้าอก ที่ตนลงมือกระทำตบหน้าเขาไปเพราะแค้นตั้งแต่รอบที่แล้ว และจะไม่ขอโทษเพราะตนมั่นใจว่าเขาตั้งใจทำ ถ้าอ้างว่าเป็นการป่วยญาติจะต้องนำตัวเข้าไปรักษาไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้ ถ้าไม่ได้ป่วยก็รับโทษตามกฎหมายไปเพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับเด็กไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกตนหรือลูกคนอื่น

ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี รายงาน