สิ้นท่า! มือปาระเบิดไปบอมบ์บ้านครอบครัวผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม ถูกตำรวจจับกุมขณะเมายาอยู่ย่านสุวินทวงศ์

สิ้นท่า! มือปาระเบิดไปบอมบ์บ้านครอบครัวผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม ถูกตำรวจจับกุมขณะเมายาอยู่ย่านสุวินทวงศ์

จากกรณีที่มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงินปาระเบิดที่บ้านของบิดามารดาของนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อช่วงค่ำวันนี้

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนของหลายพื้นที่ได้ไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดไปจนสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าผู้ก่อเหตุคือ นายชนะภัย (ขอสงวนนามสกุล) หรือนิว อายุ 27 ปี อดีตคนงานส่งเอกสารของบริษัทยูพีดีซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงทำการตรวจสอบข้อมูลคดีในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมดพบว่ายังมีเหตุลักษณะใกล้เคียงกันอยู่อีก 1 ที่และมีความเกี่ยวโยงกันกับบ้านที่เกิดเหตุล่าสุด จึงกระจายข้อมูลไปยังชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลทั้งหมด

จนกระทั่งช่วงเย็นของ วันที่ 25 มกราคม ชุดสืบสวน สน.สุวินทวงศ์ ได้ออกตรวจพื้นที่ปราบปรามยาเสพติด ในซอยสุวินทวงศ์ 50 พบนายชัยชนะมีท่าทีพิรุธ จึงเข้าไปขอตรวจค้น พบลักษณะตรงตามกับที่ตำรวจกำลังต้องการตัว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำและแจ้งให้สน.มีนบุรีและสน.คันนายาวรับทราบ

จากการสอบปากคำนายชัยชนะให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริงและยังเคยไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่บริษัทยูพีดี  ตรงข้ามซอยรามอินทรา 109 ซึ่งเคยทำงานที่บริษัทดังกล่าวแต่ถูกไล่ออกจึงเกิดความแค้นและตัดสินใจซื้อประทัดยักษ์ไล่นกมาประกอบเป็นระเบิดไปป์บอร์ม ไล่ก่อเหตุไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือมีผู้ใดสั่งการ

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำให้เกิดระเบิดจนทรัพย์สินเสียหาย, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์, และบุกรุกในเวลากลางคืน โดยจะแยกดำเนินคดีต่างกรร ต่างวาระกันทั้ง 2 สถานที่

จากการตรวจสอบประวัติของนายชัยชนะพบว่าเคยทำงานที่บริษัทดังกล่าว กระทั่งปี 2559 ทางบริษัทจับได้ว่าลักทรัพย์ของบริษัทจึงถูกจับกุมดำเนินคดี ต่อมาในปี 2561 ได้กลับมาสมัครงานที่บริษัทเดิมอีกครั้งและทำงานจนถึงปี 2563 แต่พบว่ามีปัญหายาเสพติดจึงให้ออกจากบริษัท เป็นสาเหตุทำให้ผู้ต้องหาเกิดความคับแค้นใจและมาก่อเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาพบว่ามีการเสพยาบ้า ในระหว่างการควบคุมตัวพบว่า ผู้ต้องหามีอาการเมายาให้การรบกวนไปมา ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามในประเด็นต่างๆพบว่าผู้ต้องหามีอาการเลื่อนลอยและไม่ยอมตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน

หลังจากสอบปากคำผู้ต้องหานานเกือบ 1 ชั่วโมง ทีมข่าวได้สอบถามนายชัยชนะ ว่าก่อเหตุเพราะแค้นหรืออย่างไรเจ้าตัวบอกว่าไม่รู้ และเมื่อถามว่าไปเอาวิธีทำระเบิดมาจากไหนก็บอกว่าไม่รู้ มีใครตั้งวานหรือไม่เจ้าตัวบอกว่าไม่มีใครว่าจ้าง ไม่ได้หวังจะเอาชีวิต และเมื่อถามว่าแค้นเขาหรืออย่างไร นายชัยชนะตอบเพียงว่าอย่ากลับบ้านครับ ซึ่งลักษณะท่าทีของนายชัยชนะค่อนข้างมึนเมาสารเสพติดอย่างเห็นได้ชัด

ผู้สื่อข่าวกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ