
เปิดปฏิบัติการ ล้างบ้าน ใจกลางกรุง รวบนายช่างโยธา เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. และนายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการฯ มอบหมายให้ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ และพ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 1.นายปัญญาฯ อายุ 31 ปี ตำแหน่ง นายช่างโยธาปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพระโขนง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 6/2568 ลงวันที่ 16 มกราคม 2568
ข้อกล่าวหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 สถานที่จับกุม บริเวณห้องทำงานฝ่ายโยธา ชั้น 2 สำนักงานเขตพระโขนง แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ทำการสืบสวนสอบสวน กรณี นายปรินทร์ฯ ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกนายช่างโยธาปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพระโขนง ซึ่งเรียกรับเงิน ค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร จำนวน 7 อาคาร จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้พาผู้กล่าวหา เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายช่างโยธาคนดังกล่าว
จากการสอบถามนายปรินทร์ฯ ผู้เสียหาย ได้ความว่า เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2567 นายปรินทร์ฯ ต้องการจะก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จำนวน 7 อาคาร จึงได้เข้าไปติดต่อที่ สำนักงานเขตพระโขนง เพื่อยื่นแบบก่อสร้างแผนผัง ทั้ง 7 อาคาร กับนายปัญญาฯ นายช่างโยธา เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้อง นายปัญญาฯ แจ้งว่าให้ยื่นขออนุญาตฯ แยกรายอาคาร เนื่องจากต้องมีพื้นที่ซึมน้ำ และต้องมีการปรับแบบ เนื่องจากระยะร่นของอาคารเกินขนาดมาตรฐาน ให้ดำเนินการแก้ไข
ต่อมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ผู้ต้องหาได้เรียกรับเงินรวมจำนวน 420,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารจากผู้เสียหาย โดยมีการนัดรับเงินจากผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 จำนวน 200,000 บาท ส่วนจำนวนเงิน ที่เหลืออีก 220,000 บาท ได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้า บัญชีของบุคคลอื่น (บัญชีม้า) จำนวน 20,000 บาท และอีก 200,000 บาท ได้นัดหมายให้ผู้เสียหายมาจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหาที่ห้องทำงานของฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง ในวันที่ 23 มกราคม 2568 จึงได้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายปัญญาฯ ตำแหน่งนายช่างโยธาปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพระโขนง และได้มีการวางแผนเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีกฎหมาย
ซึ่งการกระทำนี้ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระโขนง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย จนวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน