ไอ้โจ้ เปิดปากยอมรับผิด ถูกตีคิ้วแตกก่อนจึงโมโหลั่นไก

ไอ้โจ้ เปิดปากยอมรับผิด ถูกตีคิ้วแตกก่อนจึงโมโหลั่นไก

วันที่ 23 มกราคม 2568 ความคืบหน้ากรณีที่เกิดเหตุยิงกันที่หน้าผับแห่งหนึ่ง ในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบ สภ.กันทรลักษ์ และชุดสืบ ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ได้เร่งจับกุมตัวมือปืน ซึ่งก็คือ นายจักรพงศ์ หรือโจ้ จูมคำ อายุ 22 ปี ขณะกำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศ ตามเส้นทางธรรมชาติจากจังหวัดมุกดาหาร ไปสู่ สปป.ลาว จนเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้พร้อมนำตัวมาสอบสวน ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และถูกควบคุมตัวไว้ที่ห้องขัง สภ.เมืองศรีสะเกษ ตั้งแต่คืนของวันที่ 21 มกราคม 2568 เพื่อรอสอบสวน ฝากขัง

เช้าวันนี้ เวลา 10.20 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบ พร้อมทีมงานสอบสวน จาก สภ.กันทรลักษ์ ได้นำรถยนต์ส่งตัวผู้ต้องหา มาขอรับตัว นายจักรพงศ์ หรือโจ้ จูมคำ ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองศรีสะเกษ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยคุมกันอย่างแน่นหนา และไม่ได้แจ้งหมายนี้แก่ญาติมือปืน หรือผู้ใดได้ทราบ เพราะหวั่นว่าจะเกิดอันตรายต่อผู้ต้องหา หลังจากเดินทางมาถึง ได้นำรถยนต์ที่มีห้องควบคุมผู้ต้องหามาจอดที่ด้านหน้า ตรงประตูทางลงของ สภ.เมืองศรีสะเกษ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 20 นาย อาวุธครบมือ คอยดูแลความปลอดภัยอยู่รอบรถยนต์ จากนั้น ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ได้นำเอกสาร และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อเข้าไปเปิดห้องควบคุม และเข้าไปแจ้งหมายแก่นายโจ้  ให้ทราบว่า มาจาก สภ.กันทรลักษ์ เข้าไปอ่านหนังสือการขอมารับตัวไปฝากที่เรือนจำกันทรลักษ์ ซึ่งนายโจ้  ก็ได้ขอแต่งตัว และเดินออกมาจากห้องควบคุม ภายใต้การดูแล รักษาความปลอดภัย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทั้ง 2 สภ.

นายโจ้ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวครั้งแรก นับตั้งถูกจับกุม ว่า สาเหตุที่ตนยิง เพราะว่าเขาทำร้ายร่างกายผมก่อน ที่บริเวณตาข้างขวา และคิ้ว แตกเป็นรอยช้ำอยู่ ( พร้อมชี้ให้ดู ) และตนก็ขอโทษญาติๆ พี่น้องของผู้เสียชีวิต เพราะผมก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงให้เสียชีวิต โดยผมโกรธมากเฉยๆ ยิงโดยไม่ได้ตั้งใจยิงที่จะให้เสียชีวิต และในการที่ถูกนำตัวไปควบคุม ฝากขังที่เรือนกันทรลักษ์ ในวันนี้ก็หวั่นมากในเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะกลัวอันตรายกับตนเอง เพราะว่าเขาผุ้ตายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในอำเภอกันทลักษ์ ก่อนนี้ร้องขอให้ฝากขังตนที่เรือนจำศรีสะเกษ แต่ผลออกมาเช่นนี้ ก็ไม่เป็นไร ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้น ผมก็ยอมรับกรรมตามที่เกิดขึ้นจริง  

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายโจ้ ไปขึ้นรถยนต์ที่มีห้องควบคุมผู้ต้องหาอยู่กระบะท้าย พร้อมมีเจ้าหน้าที่นั่งประกอบไปด้วย 2 นายด้านหลัง และได้มีรถยนต์วิ่งนำหน้า 1 ด้านหลังวิ่งประกอบหลังอีก 1 คัน เพื่อนำตัวนายโจ้ ไปที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ และฝากขังต่อที่เรือนกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ศรีษะเกษ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ