ตำรวจนครบาลระดมจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

ตำรวจนครบาลระดมจับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

วันนี้(17 ม.ค. 68) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม  บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วยนายอำนาจ เหล่ากอที ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปรายปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการระดมจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในห้วงวันที่ 10 - 17 ม.ค. 68 โดยเป็นการเปิดปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดจำนวน 215 เป้าหมาย เครือข่ายยาเสพติดที่เข้าดำเนินการปราบปราม 71 เครือข่าย ปรากฏว่าสามารถจับกุมรวมทุกข้อหาได้ 277 คดี จับกุมตามหมายจับ 57 คดี จับกุมข้อหาร้ายแรงจำนวน 127 คดี จับกุมข้อหาไม่ร้ายแรง 150 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็นยาบ้า 9,098 เม็ด ไอซ์ 197 กิโลกรัม ยาอี 130 เม็ด และเฮโรอีน 1.3 กิโลกรัม พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดมูลค่ารวม 11,231,199 บาท โดยมีผลปฏิบัติการที่สำคัญ 2 คดีคือ การปฏิบัติการของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และกองบังคับการตำรวจนครบาล 6

พ.ต.อ.อัครพล  โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 บอกว่าสืบเนื่องจากปลายปี 2567 ได้จับกุมยาเสพติดได้จำนวนหนึ่งในพื้นที่เตาปูน จึงสอบสวนขยายผลทราบว่าผู้ที่นำยาเสพติดมาส่ง คือ (นายณรงค์ หรือ ปู อายุ 38 ปี) ผู้ต้องหาที่เพิ่งจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา(16 ม.ค.) จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้น และตรวจค้นจับกุมยาเสพติดได้เป็นไอซ์ 100 กิโลกรัม อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 2 กระบอก พร้อมยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์2 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน

จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ต้องหาเคยรับหน้าที่ในการส่งยาเสพติดกับเพื่อนระยะเวลาหนึ่งในช่วงกลางปี 2567 แต่หลังเพื่อนถูกจับกุม จึงมาประกอบอาชีพขายสัตว์เลี้ยงสวยงามที่ตลาดนัดจตุจักร โดยมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 20,000- 30,000 บาท แต่ต่อมาผู้ว่าจ้างส่งยาเสพติดได้ติดต่อผู้ต้องหามาทางแอพพลิเคชั่น LINE เพื่อชักชวนให้ส่งยาเสพติดต่อจากเพื่อนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ จึงเข้ามาสู่วงจรค้าขายยาเสพติดช่วงปลายเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหามีหน้าที่ไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆครั้งละประมาณ 10-15 กระสอบ กระสอบละประมาณ 20-25 กิโลกรัม แล้วนำมาพักคอยเพื่อส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง ซึ่งหากเป็นลูกค้ารายใหญ่ก็จะมีการส่งบริเวณถนนในพื้นที่ตะเข็บกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครั้งละ 1-2 กระสอบขึ้นไป ส่วนยาเสพติดที่บรรจุเป็นหีบห่อ 1-2 กิโลกรัมก็จะจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อยในเขตกรุงเทพฯ  โดยได้รับค่าจ้างในการส่งยาเสพติดกิโลกรัมละ 1,000 บาท และทำมาแล้วหลายครั้ง / ส่วนยาเสพติดที่จับกุมได้ในครั้งนี้เป็นยาเสพติดที่ผู้ต้องหาเพิ่งไปรับมาเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ จ. สุพรรณบุรี จำนวน 6 กระสอบ กระสอบละประมาณ 25 กิโลกรัม และได้ส่งให้กับลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วน โดยหลังจากนี้จะมีการขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการดังกล่าวต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพรนิมิตร รอง ผบก.น.6 บอกว่าสืบเนื่องจากวันที่ 9 ธันวาคม 2567 กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้จับกลุ่มผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าจำนวน 16.5 ล้านเม็ด จึงได้สอบสวนขยายผลออกหมายจับเพิ่มเติมจากคดีเดิม 3 หมาย และขอหมายค้นศาลเมื่อวานที่ผ่านมา(16 ม.ค.) โดยได้ตรวจค้นบ้านพัก 2 หลัง ในพื้นที่ ต.เชียงรากน้อย อ. บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีผู้พักอาศัยภายในบ้านนำการตรวจค้นด้วยความยินยอมและสมัครใจ จึงได้ทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดเป็นรถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คันพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่าประมาณ 200,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งสิ้นประมาณ 2,490,000 บาท

ขณะที่ พล.ต.ท.สยาม บอกว่าสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันครามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.) ในห้วงวันที่ 10-17 ม.ค.68 โดยหลังจากนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลก็จะร่วมกับ ปปส. เพื่อสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดรายนี้และรายอื่นๆต่อไป ซึ่งช่วงนี้ก็จะเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นยาเสพติดเพื่อไม่ให้แพร่กระจายไปสู่ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ กทม. รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ