เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ได้มีการรายงานว่า ครูสาวใน จ.อุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์โทรศัพท์ของธนาคารโทร. หา บอกให้โอนเงินออกจากบัญชีป้องกันการโดนแฮก จนเสียเงิน 1.2 ล้านบาท

โดย ครูผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์จาก อบต.ท้องถิ่น ที่ตนไปซื้อที่ดินเอาไว้ โทรศัพท์มาแจ้งว่า ที่ดินที่ซื้อไว้มีปัญหาทับซ้อนกับที่ดินข้างเคียง ให้ไปขอเอกสารที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี และนำไปยื่นที่ อบต. เพื่อจะเจรจากับเจ้าของที่ดินข้างเคียง จัดการรังวัดที่ดินใหม่

ทว่าเมื่อโทรศัพท์ไป กลับได้รับคำแนะนำว่า ให้ไปกรอกข้อมูลยื่นออนไลน์ เริ่มมีพิรุธว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ จึงวางสาย แต่หลังจากนั้น มีอีกเบอร์โทรศัพท์เข้ามา ตอนแรกไม่รับ แต่เห็นโทร.เข้ามาไม่หยุด พอเช็กในอินเทอร์เน็ตพบว่าเป็นเบอร์ธนาคารชื่อดัง จึงตัดสินใจรับ อีกฝ่ายพูดคล่องแคล่วมาก ไม่เหมือนมิจฉาชีพส่วนใหญ่ บอกโทรศัพท์ตนถูกแฮกให้รีบแก้ไข ขณะเดียวกันโทรศัพท์ตนก็ค้างและช้าจริงๆ ทำให้ตนยิ่งเชื่อกับสิ่งที่เขาบอก

ตอนแรก มีคำแนะนำให้เข้าแอปฯ ธนาคาร ตั้งค่ารักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแปลงวงเงินหรือโอนเงิน รวมถึงบอกให้เช็กแอปฯ แปลกปลอมในโทรศัพท์ ตนเชื่อสนิทใจว่าเป็นการรักษาเงินในบัญชี แต่กลับกลายเป็นว่าโทรศัพท์ตนกลับช้าลงจนพิมพ์อะไรไม่ได้ อีกฝ่ายก็บอกว่า มิจฉาชีพทำงานแล้ว ให้รีบเอาเงินออกจากธนาคารให้เร็วที่สุด ด้วยการโอนไปที่บัญชีบุคคลหนึ่ง ที่ธนาคารเตรียมไว้ป้องกันมิจฉาชีพ แล้วให้ไปแจ้งความ นำสลิปโอนเงินไปรับเงินคืนที่สาขา

ตนหลงเชื่อ จึงดำเนินการโอนเงินไป 5 ครั้ง เป็นเงิน 1.2 ล้านบาท หลังจากนั้น ตั้งสติได้ รีบโทรศัพท์ไปหาธนาคารเพื่ออายัดบัญชีมิจฉาชีพ แต่ไม่ทัน พอไปแจ้งตำรวจ ตำรวจบอกว่า มีแววไม่ได้รับเงินคืน ตนใจเสียมาก พอกลับมาใช้โทรศัพท์ ก็พบว่า มีแอปฯ แปลกๆ อยู่ในเครื่อง ไม่รู้ติดตั้งตอนไหน แต่ก่อนหน้านี้ลูกสาวมักยืมโทรศัพท์ไปเล่นเป็นประจำ และสิ่งที่คาใจสุดในเรื่องนี้คือ ทำไมเบอร์โทรศัพท์จึงมีหมายเลขคล้ายธนาคาร

ข้อมูล เรื่องเล่าเช้านี้