หนุ่มมือเผาบ้านเจ้าหนี้เงินกู้ ดอดเข้ามอบตัวแล้ว
จากเหตุการณ์เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้วอดทั้งหลัง รถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมสกัดต้นเพลิงไม่ให้ลกุลามติดบ้านข้างเคียง เจ้าของบ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ลูกชายปล่อยเงินกู้กินดอกคาดถูกวางเพลิงจากลูกค้า
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานางเพลิน กันสุข อายุ 54 ปี ได้พานายนัฐวัฒน์ หรือบอล แตงอ่อน อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สุวิทย์ หริรักษ์ สารวัตรสถานีตำรวจ สภ.บ้านกุ่ม อ.เมือง ลพบุรี กรณีเหตุการณ์ลูกชายไปเผาบ้านของนางปรุง พูลอ่อน อายุ 62 ปี จนวอดทั้งหลังมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท โดยทางแม่ได้เกลี้ยกล่อมให้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งลูกชายก็ให้การรับสารภาพกับตน รวมถึงรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายนัฐวัฒน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด จุดแรกที่บ้านเกิดเหตุ และบ้านผู้ต้องหาเพื่อหาพยานหลักฐานก่อนรีบนำตัวกลับ สภ.เกรงจะถูกครอบครัวและญาติผู้เสียหายประชาทัณฑ์
นางเพลินผู้เป็นแม่เล่าว่าก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 ม.ค. 68 ตนเองขณะเดินช่วยผู้สมัคร สจ.หาเสียง ได้ถูกนางปรุง พูลอ่อน ทำร้ายร่างกายตบตีได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเข้าใจผิดคิดว่าตนไปพูดถึงเรื่องอดีตสามีของนางปรุง ซึ่งตนเองได้เข้าแจ้งความเรื่องถูกทำร้ายร่างกายเมื่อเช้าวันที่ 12 ม.ค.68 โดยไม่ได้บอกนายนัฐวัฒน์ เพราะว่าเขารักแม่ และเป็นจิตเวช เคยเข้ารับการรักษาอาการนานหลายปี แต่ไม่รู้ว่าลูกชายไปทราบเรื่องได้อย่างไร มาถามแม่ว่าถูกนางปรุง ทำร้ายเหรอ ตนเองปฎิเสธไปว่ารถจักรยานล้มเอง ไม่มีใครทำร้าย ช่วงบ่ายถูกทราบว่าไฟไหม้บ้านนางปรุง ซึ่งไม่คิดว่าเป็นลูกตนเองที่เป็นผู้ลงมือเผา และก็ทราบมาว่านายนัฐวัฒน์ หลานชายเคยกู้เงินลูกชายนางปรุงด้วยเช่นกัน ไม่ทราบจำนวนเงิน และการติดตามทวงถาม แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นชนวนเหตุความแค้นครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ด้านนางปรุง พูลอ่อน เจ้าของบ้านซึ่งให้การกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ทะเลาะตบตีกับนางเพลินจริงเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ม.ค. ไม่คิดว่าช่วงบ่ายวันที่ 12 ม.ค. จะถูกเผาบ้านจากลูกชายนางเพลินที่แค้นแทนแม่ ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงลูกชายนางปรุงที่อออกเงินกู้กินดอกเบี้ยชาวบ้าน เป็นชนวนสาเหตุด้วยหรือไม่ นางปรุงไม่ตอบ ทั้งนี้ในชั้นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว รวมถึงผู้ต้องหาให้การรับสารภาพนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อย ในส่วนของการลงมือโดยขาดสติสัมปชัญญะ จากจิตเวชต้องให้แพทย์ใด้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมสอบสวนปากคำเพิ่มเติม และจะได้ตัวฝากขังศาลต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด ลพบุรี รายงาน