พบซากเก๋งถูกไฟไหม้กลางป่า คล้ายถูกชำแหละ แถมเจอชิ้นส่วนกระดูกปริศนา
เมื่อค่ำวันที่ 10 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุจาก นายนพรัตน์ สระบัว กำนันตำบลหนองบัว และผู้ใหญ่บ้านว่า พบซากรถเก๋งถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน คล้ายถูกชำแหละ มีชิ้นส่วนคล้ายกระดูกคน ในป่ายูคาลิปตัส พื้นที่หมู่ 6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ทราบและรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย จนท.พิสูจน์หลักฐานกาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา ชุดสืบสวนภูธร จ.กาญจนบุรี สายตรวจประจำตำบลหนองบัว และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำรถอุปกรณ์ส่องสว่างสนับสนุน
ที่เกิดเหตุชาวบ้านเรียกว่าป่าเย้ย เป็นป่าดงยูคาลิปตัส กว้างหลายร้อยไร่อยู่ห่างจากถนนชุมชน 400 เมตร สามารถเข้าหลายช่องทาง พบซากรถเก๋งยี่ห้อนิสัน ไม่ทราบรุ่นถูกไฟไหม้ทั้งคัน จอดในลักษณะบนตอไม้ ไม่มีล้อ ไม่มีประตูสามบาน เหลือประตูหน้าฝั่งซ้าย ไม่มีฝากระโปรงหน้า เครื่องยนต์ไหม้ ไม่มีแบตเตอรี่ มีซากเบาะคู่หน้า พบป้ายทะเบียน หลังถูกไหม้ละลายไม่เหลือเลข ท้ายกรโปรงหลังมีถังแก๊สติดตั้งในรถ ที่พื้นดินท้ายรถพบกองปุ๋ย ป่ารอบๆ ถูกไฟไหม้ มีชิ้นส่วนสีขาวคล้ายกระดูกคน ทำให้ตกใจกันว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิต แต่พอตรวจสอบแล้วไม่ใช่กระดูกคน แต่อย่างใด พบซองกับก้นบุหรี่ ใบเสร็จร้านสะดวกซื้อ จึงเก็บไว้ตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเลขตัวถังในระบบขนส่งทางบก ระบุเป็นรถยี่ห้อนิสัน รุ่นซันนี่ นีโอ ท้ายแตงโม สีดำ ทะเบียน กย71 กาญจนบุรี มีนายวรากรณ์ สุขกะจะ อายุ 33 ปี ชาว ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อไปยืนยันตัวบุคคลแล้วว่าถูกต้อง จึงแจ้งให้เข้ามาพบชุดสืบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า เจ้าของรถคันนั้นกล่าว ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า รถได้หายไปได้ 2 วันแล้ว แต่ไม่ได้มีการแจ้งความ คาดว่ารถถูกโจรกรรมมาชำแหละอะไหล่ไปขาย แล้วเผาทิ้ง หรืออาจถูกคนใกล้ตัวขโมยเอาไป แต่ทำไมต้องเผารถ จึงต้องรอการสอบสวนเจ้าของรถอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับป่าเย้ย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มักจะมีเหตุการณ์ต่างๆ อาทิเช่น พบศพผู้เสียชีวิตถูกนำมาทิ้ง หรือมีผู้เสียชีวิตในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานที่เปลี่ยว ไม่ค่อยมี ใครเข้ามา ในพื้นที่สักเท่าไหร่ ดังนั้นคนที่เข้ามาได้ต้องรู้จักเส้นทางเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาญจนบุรี รายงาน