
ตำรวจไซเบอร์ รวบเพิ่มเครือข่ายแอป ไทยเดลี่ หลอกอ่านข่าวออนไลน์ ตุ๋นเกลี้ยงบัญชี 4 ล้าน
วันที่ 7 มกราคม 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 รับรายงานจาก พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ต.กิตติเดช สมวงศ์ สว.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังเข้าจับกุมนายจักรินทร์ อายุ 26 ปี
สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มผู้เสียหาย 6 คนรวมตัวแจ้งความว่า เมื่อกลางปี64 กลุ่มผู้เสียหายได้ถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยเดลี่ ” ซึ่งเป็นแอปสำหรับอ่านข่าว แต่มีการชักชวนลงทุนทำภารกิจออนไลน์ สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินที่โอนไปคืนได้ โดยมิจฉาชีพมักยิงโฆษณาให้โหลดแอปดังกล่าวตามโซเชียล ซึ่งมักขึ้นป๊อบอัป (Pop-Up) กับวิดีโอที่ดูผ่าน YouTube เพจหรือกลุ่มประกาศหางานใน เฟซบุ๊ก หรือ สุ่มส่ง SMS หรือ ลิงก์ทางไลน์ โดยล่อเหยื่อด้วยการเชิญชวนทำงานด้วยการอ่านข่าวออนไลน์ อ้างทำงานง่ายให้ผลตอบแทนดี
ภายหลังกลุ่มผู้เสียหายได้พบโฆษณาแล้วโหลดแอปดังกล่าว เมื่อเข้าแอปแล้วจะปรากฎลิงก์ให้อ่านข่าวปกติ แล้วปรากฏข้อความเพื่อดึงดูดความสนใจในการหารายได้ โดยให้ผู้เสียหายเข้าไลน์กลุ่ม Open Chat โดยสมาชิกในกลุ่มนั้นทั้งหมดเป็นหน้าม้า จะพยายามสนทนา ล่อลวง ใช้อุบายต่างๆ โน้มน้าวใจ มีการรีวิวผลตอบแทน
รวมทั้งมีการทำคลิปวีดีโอแนะนำวิธีการทำงาน พร้อมทั้งมีการอ้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัททำสัญญากับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของโลก เพียงสำรองเงินเพื่อเข้าไปอ่านข่าว หรือดูโฆษณาของบริษัทชื่อดังต่างๆ เช่น อเมซอน ลาซาด้า ช็อปปี้ ก็จะได้เงินกลับคืนในอัตรา 10-20 % ภายใน 10 นาที เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพจะให้เริ่มโอนเงินในจำนวนที่ต่ำก่อน และพบว่าประมาณ 3- 4 ครั้งแรก สามารถถอนได้จริง เช่น ลงทุน 1,000 บาท ได้กำไร 1,200 บาท
ต่อมา กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อและเริ่มลงทุนในอัตราที่เพิ่มมากขึ้น มีการกำหนดกเกณฑ์ในการโอนเงินเพิ่มขึ้น เช่น ต้องโอนเงินให้ครบตามจำนวนแพคเกจ เช่น แพ็คเกจ ที่ 1 จำนวน 10,000 บาท แพ็คเกจที่ 2 จำนวน 3,000 บาท แพ็คเกจที่3 จำนวน 66,000 บาท หากทำไม่ครบ จะไม่สามารถถอนเงินทั้งหมดคืนได้ ซึ่งยอดความเสียหายที่กลุ่มผู้เสียหายโดนหลอกลวงไปทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 3,869,188 บาท
หลังรับแจ้งทางออกสืบสวนเพื่อเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย จนกระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายจักรินทร์ อายุ 26 ปีซึ่งเป็น 1 ในเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมฯ” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบแพลตฟอร์มหลอกลวงดังกล่าว พบว่าได้ยิงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กจนมีผู้ติดตามหลักแสน และสามารถดาวน์โหลดแอปดังกล่าวได้ทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลหาตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดี และประสานขอปิดกั้นแพลตฟอร์มดังกล่าวทุกช่องทางต่อไป กรณีผู้เสียหายจากแพลตฟอร์มดังกล่าว สามารถรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจ หรือ แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งออนไลน์ที่ www.thaipoliceonline.go.th เท่านั้น ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน AOC 1441