หนุ่มร้องกู้ภัยชุดแดงส่งผู้ป่วยโรคหัวใจผิด รพ.รักษาช้า ทำหัวใจขาดเลือด อ้างรถติด เชื่อมีค่าเคส ชี้มูลนิธินี้ไม่ได้อยู่ในเขตรับผิดชอบ
วันที่ 4 ธ.ค. 67 นายกั๊ก (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เดินทางมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนกรณี นายคณิณพัชร์ งามเมืองแมน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ป่วยโรคหัวใจ แต่ถูกอาสาสมัครกู้ภัยแห่งหนึ่ง นำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลห่างไกลที่ไม่สามารถรักษา จนเกิดอาการหัวใจขาดเลือดขั้นวิกฤต
ทางด้าน นายกั๊ก (นามสมมุติ) กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม เวลาประมาณบ่าย 2 โมงกว่า นายคณิณพัชร์ ผู้ป่วย ซึ่งพักอยู่ห้องใกล้กัน เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจติดขัดอยู่ในห้องน้ำ ทางภรรยาจึง ลงมาขอความช่วยเหลือที่นิติบุคคล ก่อนที่นิติบุคคลโทรแจ้ง 1669 จากนั้นผ่านไปเพียง 10 นาที ได้มีรถตู้และรถกระบะแบบมีหลังคาซึ่งเป็นของมูลนิธิแห่งหนึ่ง เข้ามาในคอนโด
ขณะที่ตนอยู่ระเบียงห้อง จึงเข้าไปดูอาการผู้ป่วยในห้อง พบมีอาสาผู้หญิง 2 คนพยายาม ใช้อุปกรณ์วัดปลายนิ้ว และผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ตนจึงถามย้ำกับภรรยาว่าสิทธิ์รักษาอยู่ รพ.ไหน แต่ภรรยาบอกว่า อยู่ รพ.ราชวิถี และมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ตนคิดว่าเป็นป่วยเกี่ยวกับโรคสมองหรือไม่ก็โรคหัวใจ จึงคิดว่าให้ไปส่ง รพ.ใกล้ที่สุดที่เป็น รพ.เอกชน คือ รพ.พระราม 9 ซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดเพียง 1.8 กม. หรือไม่ก็ รพ.พญาไท ห่าง 4.3 กม. โดยตนย้ำกับอาสา(ชุดแดง) ไปหลายครั้ง ให้ส่ง รพ.ใกล้ที่สุด
นายกั๊ก กล่าวอีกว่า ระหว่างนั้น 1 อาสาทำทีโทรหารถพยาบาลฉุกเฉินขั้นสูง เพื่อที่จะรอ และบอกว่าจะขอส่งผู้ป่วยที่ รพ.คามิลเลียน ทองหล่อ ตนจึงย้ำว่าให้ไป รพ.พระราม 9 ขณะนั้นตนสังเกตเห็นคนป่วยตัวซีด แต่ยังพูดได้ว่า หายใจไม่ออก ตนจึงช่วยยกขึ้นเปลเข็นผู้ป่วยลงมา จากนั้นอาสาชุดแดง ยังหันมาถามตนกลับว่า ถ้าส่ง รพ.เอกชน ค่าใช้จ่ายสูง พี่ออกค่าใช้จ่ายเองไหม ตนจึงบอกว่า กูมีเงินไปส่งได้เลย
จากนั้นก่อนขึ้นส่ง ตนก็บอกกับภรรยาคนป่วยที่ขึ้นรถไปด้วยว่า ให้ส่ง รพ.พระราม 9 กระทั่งบ่าย 3 โมง ตนติดต่อไปหาภรรยาผู้ป่วยบอกว่า ถูกนำมาส่ง รพ.คามิลเลียน แต่ทำได้แต่ประคับประคองผู้ป่วย โดยทาง รพ.คามิลเลียน บอกว่า ไม่สามารถทำหัถการเกี่ยวกับโรคหัวใจไม่ได้ จะต้องประสาน รพ.ราชวิถี ทำให้ต้องเสียเวลา หลังจากส่งผู้ป่วยไป รพ.ราชวิถี ทำบอลลูนหัวใจ แต่หลังจากนั้นหัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นช้า และหมอใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจที่ไหล่ข้างซ้ายให้ อาการเริ่มดีขึ้นแต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
นายกั๊ก กล่าวอีกว่า ตนคาใจว่าทำไมไม่ส่ง รพ.ใกล้ที่สุด ทั้งที่ย้ำไปหลายรอบ เพราะผู้ป่วยตัวเย็นหน้าซีดมาก โดยภรรยาผู้ป่วยก็งง เพราะหลังจากขับรถออกจากคอนโด แล้วมาที่แยกพระราม 9 พร้อมหันมาบอกว่า ไปส่งที่ รพ.คามิลเลียน นะ ทำให้เสียโอกาสในการรักษาที่รวดเร็วที่สุด โดยเมื่อเช้ามีน้องอาสากู้ภัยชุดแดง ได้โทรมาบอกว่า สาเหตุที่ไม่ไปส่ง รพ.พระราม 9 เนื่องจากรถติดเลยไม่ไปส่ง และไม่เคยส่ง รพ.พระราม 9 ซึ่งตนคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดถนนโล่งมา
ตนติดใจคำที่หันมาบอกว่า ถ้าส่ง รพ.พระราม 9 เอกชนพี่ต้องจ่ายเองนะ พี่จ่ายได้ป่าว แต่ รพ.คามิลเลียนก็เอกชน เหมือนกัน ส่วนกรณีที่อาสาชุดแดงอ้างว่า ได้พูดคุยกับภรรยาผู้ป่วยแล้วบอกว่า ส่ง รพ.ไหนก็ได้ที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งตนได้สอบถามไป แต่ตัวภรรยาได้แต่อึ้ง ซึ่งพูดไม่ออกเพราะห่วงสามีเขา
ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่อาสาดังกล่าวขึ้นมาบนห้องผู้ป่วยพูดถึงแต่ 2 รพ. (เพชรเวช และคามิลเลียน) ตนจึงขอให้ส่ง รพ.ใกล้ที่สุด และสงสัยว่าหลังแจ้งเหตุทางเบอร์ฉุกเฉิน กลับมีอาสาของมูลนิธินี้เพียง มูลนิธิเดียวที่รับแจ้ง มาถึงเร็วและรู้ก่อน โดยจากการสอบถามเพื่อนอาสาอีกมูลนิธิที่เข้าเวรประจำวัน กลับบอกว่าไม่ได้รับแจ้งเหตุแต่อย่างใด จึงอยากถามว่าเรื่องข้อมูลเจ็บป่วยเคสนี้หลุดไปที่มูลนิธินี้ได้อย่างไร ประกอบกับมีข้อมูลว่ามูลนิธิอาสาชุดแดงนี้ยังไม่ได้อยู่ในระบบไม่สามารถรับเคสได้ จึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ
ส่วนกรณีเมื่อถามว่ามีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายกั๊ก กล่าวว่า เชื่อว่ามีเรื่องผลประโยชน์ เมื่อ 2 ปีก่อน มี รพ.แห่งหนึ่ง มีหลักฐานว่าจ่ายค่าเคสให้อาสา ตนเคยบอกกับทาง รพ.ว่าต้องเลิกให้ค่าเคสส่งผู้ป่วยจะได้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้วย และขอฝากว่าทางรพ.คามิลเลียน ไม่สามารถรักษาโรคสมองและหัวใจได้
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน