เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างว่า มีนักท่องเที่ยวพลัดตกจากน้ำตกโตนงาช้าง เสียชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังไม่สามารถนำร่างขึ้นมาได้ เพราะตกลงไปตรงจุดที่เป็นหน้าผาสูงชันและน้ำไหลเชี่ยว

หลังรับแจ้ง จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ ให้จัดทีมกู้ภัยไปช่วยนำร่างขึ้นมา โดยมีทีมกู้ชีพ อบต.ทุ่งตำเสา และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้างและแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่ร่วมปฏิบัติการกู้ร่างนักท่องเที่ยวในครั้งนี้

สำหรับ นักท่องเที่ยวที่พลัดตกลงไปเป็นชาวเมียนมาทราบชื่อคือ นายอ่อง อายุ 31 ปี เป็นแรงงานต่างด้าวทำงานโรงงานอยู่ในพื้นที่ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาเที่ยวที่น้ำตกโตนงาช้างกับครอบครัวในช่วงวันหยุดปีใหม่ ได้พลัดตกจากน้ำตกชั้น 3 ที่เรียกว่าโตนงาช้าง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสัญลักษณ์ของน้ำตกโตนงาช้าง ที่มีสายน้ำไหลลงมาสองทางคล้ายกับงาช้าง

เป็นชั้นที่มีหน้าผาน้ำตกสูงชัน ความสูงจากชั้น 2 โตนปลิง ถึงชั้น 3 โตนงาช้าง ราว 450 เมตร โดยร่างถูกน้ำซัดตกลงมาค้างอยู่ในซอกหินตรงกึ่งกลางระหว่างชั้น 2 กับชั้น 3 ระดับความสูงที่ตกลงมาราว 230 เมตร และเสียชีวิตทันที ซึ่งจุดนี้เคยเกิดเหตุแบบนี้แล้วหลายราย และทุกรายที่พลัดตกลงมาจากชั้น 3 ก็จะถูกน้ำซัดมาอยู่ติดอยู่ในซอกหินจุดเดียวกัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ใช้เชือกไต่หน้าผาลงไปจากระดับความสูงประมาณ 10 เมตร ซึ่งค่อนข้างอันตรายเพราะเป็นหน้าผาหินที่ชันและลื่น ต้องใช้วิธีหย่อนเปลลงไปนำร่างใส่เปลมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา และทีมกู้ภัยที่อยู่ข้างบนค่อยๆ ดึงเปลขึ้นมาได้สำเร็จ รวมเวลาของปฏิบัติการกู้ภัยกว่าจะนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้เกือบ 3 ชั่วโมง

พี่ชายภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ได้พากันมาเที่ยวที่น้ำตกโตนงาช้างในวันหยุดปีใหม่ และขึ้นไปยังชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงชัน ขณะเกิดเหตุน้องเขยกำลังเดินข้ามโขดหินกลางน้ำตก แต่เกิดลื่นตกลงไปในน้ำและถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวซัดร่างตกลงมาจากชั้น 3 จนเสียชีวิตดังกล่าว