โจรดวงกุด ขี่จยย.กระชากกระเป๋าแต่ไม่ทันระวังถูกรถชนล้มเจ็บ ถูกจับทันที

โจรดวงกุด ขี่จยย.กระชากกระเป๋าแต่ไม่ทันระวังถูกรถชนล้มเจ็บ ถูกจับทันที

วันนี้ 30 ธันวาคม 2567 ตำรวจ สน.บางเขน รับแจ้งเหตุคนร้ายกระชากกระเป๋าผู้เสียหาย แต่ถูกรถชนล้มได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยพหลโยธิน 61 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมจับกุมตัวคนร้าย ทราบชื่อคือนายณัฐวุฒิ  อายุ 25 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าสะพายข้างของผู้เสียหายภายในมีเงินอยู่ 200 บาท และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเมื่อตรวจสอบใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ก็พบยาแก้ปวดหัวและยาสามัญประจำบ้าน สมุดบัญชีธนาคาร และลูกเต๋าอีก 3 ลูก

โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ทำแผลปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับนายณัฐวุฒิ ซึ่งมีบาดแผลศีรษะแตก จากการล้มกระแทกทางเท้า และแผลถลอกตามแขนและขา จากนั้นตำรวจ สน.บางเขน ได้คุมตัวนายณัฐวุฒิขึ้นรถสายตรวจไปสอบสวนต่อที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายณัฐวุฒิว่าเหตุใดจึงก่อเหตุกระชากกระเป๋าผู้เสียหาย หรือเลือกเหยื่ออย่างไร แต่นายณัฐวุฒิปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน

จากการสอบสวนนายณัฐวุฒิ ภายหลังยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยขี่รถจักรยานยนต์มาจากตลาดวัดลาดปลาเค้า มาตามทางเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายกำลังไขกุญแจรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใต้สะพานลอย และสะพายกระเป๋าซึ่งมีลักษณะสวย คิดว่าน่าจะมีเงินเยอะ จึงขับโฉบเข้าไปใช้มือกระชากกระเป๋ามา แต่มาล้อก่อน และเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก

ขณะที่คุณโบว์ อายุ 49 ปี ผู้เสียหายที่ถูกกระชากกระเป๋า ก็ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.บางเขน พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมง ตนเองออกจากบ้านที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 61 เพื่อไปซื้อของโดยจอดรถจักรยานและล็อกไว้ใต้สะพานลอย เมื่อกลับมาระหว่างกำลังปลดกุญแจรถจักรยานออกจากช่องจอด ตนเองไม่ทันระวัง จู่ๆ ก็มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทางด้านหลัง และกระชากกระเป๋าที่ตนเองสะพายพาดตัวไว้ จนสายสะพายขาด ตนเองพยายามยื้อแย่งกระเป๋ากลับคืนมา แต่สู้แรงไม่ไหว และจังหวะที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์หนี เลี้ยวออกจากซอยพหลโยธิน 61 ไป ก็ถูกรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่วิ่งมาทางตรงชนเข้าจนรถคนร้ายล้ม ซึ่งคนร้ายได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ เลือดออกจำนวนมาก และน่าจะกำลังมึนงง จึงไม่ทันหลบหนี ประกอบกับมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันจับไว้ได้

ผู้เสียหายยังเล่าด้วยว่า ตนเองเคยถูกคนร้าย 2 คนชิงทรัพย์เมื่อหลายปีก่อน ภายในซอยที่เกิดเหตุนี้ โดยครั้งนั้นคนร้ายมากัน 2 คน ดักหน้าดักหลัง และมีอาวุธ ตนเองกลัวจะเกิดอันตราย จึงก้มหน้าไม่มองหน้าคนร้าย และยอมส่งกระเป๋าให้ไปแต่โดยดี จากนั้นจึงเข้าแจ้งความ แต่เนื่องจากเป็นตอนกลางคืน และไม่มีเบาะแสใบหน้าคนร้าย จึงยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ ดังนั้นตนเองจึงอยากให้ผู้หญิงทุกคนที่เดินทางคนเดียวระมัดระวัง

เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ก่อเหตุ และเตรียมแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ รวมถึงตรวจสอบประวัติอาชญกร ว่าเคยก่อคดีลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ