
อดีตรอง ผบ.ตร. เผยจุดแตกหัก สจ.โต้ง-โกทร จนนำมาสู่เหตุการณ์สลดในครั้งนี้
จากกรณีเหตุการณ์ยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิต ที่บ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ใน อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายสุนทร วิลาวัลย์ ถึงโรงพัก พร้อมผู้ต้องหาเป็นชายอีก 6 คน ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนนี้แล้วนั้น
ล่าสุด พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคยเป็นผู้นำปราบกลุ่มผู้มีอิทธิพลในยุคนั้น กล่าวผ่านรายการ เปิดโต๊ะข่าว ระบุถึงเรื่องดังกล่าวว่า มีการกวาดล้างกลุ่ม สจ.โต้ง และพวก จนต้องไปติดคุกหลายปี และเชื่อว่าการที่ สจ.โต้ง ติดคุกในครั้งนั้น เป็นจุดเริ่มต้นความขัดแย้ง ในยุคนั้นไม่ว่าจันทบุรี ชลบุรี ระยอง หลายจังหวัดถูกปราบปราม ยกเว้นพื้นที่ปราจีนบุรีที่เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอยู่ เพราะมีผู้อิทธิพลขัดขวาง มีการใช้ความรุนแรงยิงกันเสียชีวิต 10 - 20 คดีในช่วง 2-3 ปีและไม่ถูกจับ
ซึ่งช่วงนั้น ตนได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจัดทำบัญชีคนกลุ่มนี้ ที่มีคนในกระบวนการทั้ง สจ., กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ทหาร, ตำรวจ และ สจ.โต้ง จนรู้ว่าใครมีหน้าที่อะไร อย่างไรบ้าง ประกอบกับตอนนั้นจะมีการประมูลงาน ตนก็ให้ตำรวจจากจันทบุรี ปลอมตัวไปซื้อซองประมูลงาน ทางกลุ่ม สจ.โต้ง ก็เอากลุ่มลูกน้องมาขัดขวางไม่ให้ซื้อ ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้ติดกล้อง ติดเครื่องอัดเสียงไป ก็มีการพูดว่าอย่ามาเลย พร้อมตบคนอื่นโชว์ และกล่อมว่า อย่าซื้อซองประมูล แล้วจะให้ผลประโยชน์ ซึ่งทางตำรวจเลยบอกเลขบัญชี กลุ่มดังกล่าวก็โอนเงินค่าฮั้วประมูลมาให้ มีการจัดบริษัทคู่เทียบขึ้นมาประมูลงาน ซึ่งภายหลังตนก็จับหมด พอได้พยานหลักฐานก็ขอศาลออกหมายจับ สจ.โต้ง กับพวก ซึ่งไปติดคุกอยู่ 5 - 6 ปี
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ยกตัวอย่างคดีอยู่คดีหนึ่ง พยานเป็นพยานให้การกับ กกต. เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้พรรคมัชฌิมาถูกยุบ แล้วคุณสุนทร วิลาวัลย์ ได้ใบแดง พอคำสั่งกกต.ออก พยานเขาก็กลัว ก็เลยหนีไปหลบกับญาติ ที่ต่างจังหวัด ผ่านไป 6 เดือน พอกลับมาบ้าน ไม่กี่วันก็ถูกยิงเสียชีวิต หรือนักธุรกิจเพิ่งไปซื้อซองประกวดราคา ไม่ยอมฮั้วประมูลเนี่ย หลังจากซื้อซองมาที่รถ ก็ถูกยิงเสียชีวิตคา อบจ.เลย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.วินัย ยังบอกอีกว่า ตอนนั้นพยายามจะขยายผลให้ถึงหัวขบวนการ มีการค้น อบจ.ปราจีนบุรี ทั้งห้องนายก อบจ. และเลขานุการ ได้พยานหลักฐานพอสมควร มีหลักฐานการจ่ายเงินค่าฮั้วประมูล แจ้งข้อหานายก อบจ. ซึ่งตอนนั้นก็คือ น้องสาว โกทร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการ แต่หลักฐานไปไม่ถึง โกทร แต่ก็ทำให้เห็นว่า ปลายทางอำนาจทางการเมืองท้องถิ่นเชื่อมโยงกับธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งตอนนั้นยังจับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ตำรวจเกือบ 20 คน ทำให้อิทธิพลเงียบสงบไปช่วงหนึ่ง
สำหรับกลุ่มผู้มีอิทธิพลนั้น ล้วนมีตำรวจและข้าราชการเป็นไม้ค้ำ คือ ผู้มีอิทธิพลธรรมดาจะขึ้นมาเป็นผู้มีอิทธิพลไม่ได้ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยช่วย ขนาดโดนปราบไปแล้ว โดนแจ้งข้อหา จับไปแล้ว ติดคุกไปแล้ว ก็กลับมาสยายปีกได้เหมือนเดิม ซึ่งมองว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง และกวดขันข้าราชการที่เป็นไม้ค้ำเสริมบารมี โดยเฉพาะการกวดขันอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย
ท้ายที่สุด อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ สจ.โต้ง เขาออกจากคุก ก็ยังโทรมาหาผมเลย เขาก็บอกว่า โทรมาขอบคุณผม ที่จับเขาเข้าคุก เอ๊ะขอบคุณทำไมครับ เขาบอกว่า ผมจับเขาเข้าคุกทำให้เขารู้เลยว่า เวลาเขาเดือดร้อนเนี่ยใครช่วยเหลือเขา ไม่ช่วยเหลือเขา อะไรอย่างเนี้ย ผมยังบอกเลยให้เลิก อย่ามาทำตัวเป็นนักเลงอันธพาลอีก ซึ่งอันนี้มันก็ช่างบังเอิญนะในคลิปก็บอกว่าตอนที่ผมติดคุกเนี่ย โกไม่ช่วยผมเลยนะ นี่ไง นี่ไงฮะ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เริ่มมีความขัดแย้งกัน