ผู้เชี่ยวชาญเตือน 4 ผักที่ควรกินแบบสุก แต่หลายคนมักเข้าใจผิดว่ากินดิบจะดีกว่า
ดร.เอมี ไมเยอร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์แห่งสถาบัน Austin Ultrahealth (สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า ผักและผลไม้แต่ละชนิดมีสารอาหารเฉพาะตัว และวิธีการปรุงมีผลต่อปริมาณสารอาหารที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ เธอกล่าวว่า การปรุงที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้สารอาหารสูญเสียไปและส่งผลเสียต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การรับประทานแบบดิบไม่ได้หมายความว่าจะคงคุณค่าสารอาหารได้สูงสุดเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของผักและผลไม้แต่ละชนิดด้วย
ในบรรดานั้น มีผักและผลไม้ 4 ชนิดที่เมื่อปรุงสุกแล้วจะได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และยังดีต่อสุขภาพมากขึ้น แต่กลับมักถูกกินแบบดิบ เช่น
1 มะเขือเทศ
ในความเป็นจริง การกินมะเขือเทศแบบดิบหรือสุกล้วนดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยพบว่าการกินมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงสุกมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่ามะเขือเทศดิบ เนื่องจากเมื่อปรุงสุกจะช่วยเพิ่มปริมาณไลโคปีนได้อย่างมากถึงประมาณ 35%
ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็งบางชนิดได้ อย่างไรก็ตาม ดร.เอมีเตือนว่า วิตามินซีในมะเขือเทศจะลดลงเมื่อผ่านการปรุง แม้จะไม่มากนัก วิธีแก้คือการปรุงมะเขือเทศในเวลาสั้นๆ หรือใช้วิธีทำเป็นซอส ซุป และเพิ่มน้ำมันมะกอกเพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น
2 ผักโขม
ผักโขม (หรือที่รู้จักในชื่อปวยเล้งและสปินาช) เป็นผักที่ให้คุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุดเมื่อผ่านการปรุงสุก ผักชนิดนี้เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก แคลเซียม และแมกนีเซียม อีกทั้งไฟเบอร์ในผักโขมที่ปรุงสุกยังย่อยและดูดซึมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การปรุงสุกยังช่วยลดกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายคนอาจไม่ชอบ
ที่สำคัญ ผักโขมดิบมีสารออกซาเลต ซึ่งเป็นสารที่ยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุหลายชนิดในตัวมันเอง ยิ่งไปกว่านั้น การกินผักโขมดิบในปริมาณมากอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของตับและไตในระยะยาว หรือทำให้เกิดอาการย่อยยากและอ่อนเพลียชั่วคราว ดร.เอมีแนะนำว่าการลวกหรือการนึ่งจะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารจากผักชนิดนี้ได้อย่างเต็มที่ที่สุด
3 แครอท
ตามคำกล่าวของดร.เอมี แครอทที่ปรุงสุกไม่เพียงย่อยง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังปลดปล่อยเบตาแคโรทีนในปริมาณมากกว่าเมื่อกินแบบดิบอีกด้วย เบตาแคโรทีนเป็นสารสำคัญที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและมอบประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน
แม้ว่าการปรุงสุกจะทำให้วิตามินซีในแครอทลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณที่สูญเสียไปถือว่าไม่มากนัก โดยเฉพาะเมื่อใช้วิธีนึ่งหรือปรุงให้สุกพอดี ดร.เอมีจึงแนะนำให้กินแครอทที่ปรุงสุกเพื่อเพิ่มการดูดซึมสารอาหารให้ได้มากที่สุด
4 หน่อไม้ฝรั่ง
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการกินหน่อไม้ฝรั่งแบบดิบจะช่วยรักษาสารอาหารได้มากกว่า โดยเฉพาะเมื่อนำมาใส่ในสลัด ในเรื่องนี้ ดร.เอมีอธิบายว่า หน่อไม้ฝรั่งเมื่อปรุงสุกจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น เนื่องจากสามารถปลดปล่อยสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
การปรุงสุกช่วยทำลายโครงสร้างของเซลล์ ทำให้สารอาหารเหล่านี้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หน่อไม้ฝรั่งที่ปรุงสุกจะนุ่มขึ้น ย่อยง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่มีระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ควรนึ่งหรือย่างเบาๆ เพื่อคงสารอาหารและรสชาติที่ดีที่สุด
ข้อมูล soha