ศาลจังหวัดพิษณุโลก สั่งจำคุก 111 ปี 216 เดือน คดีครูละเมิดนักเรียน พร้อมชดใช้ 2.15 ล้านบาท
จากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมตัวนายดนุเดช (สงวนนามสกุล) หรือที่รู้จักในชื่อ “เนเน่ โมเดลลิ่ง” คดีพิเศษที่ 77/2563 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ในข้อหานำเข้าสื่อลามกอนาจารเด็กเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการค้าและล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และได้ตรวจค้นบ้านพักของนายดนุเดชฯ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานโมเดลลิ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พบคลังภาพลามกอนาจารเด็กมากกว่า 500,000 ไฟล์ภาพ นับว่าเป็นการได้มาซึ่งภาพลามกอนาจารเด็กที่มากที่สุด และเกี่ยวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กจำนวนหลายพันราย ต่อมาศาลพิพากษาให้จำเลย (นายดนุเดช) มีความผิดรวม 60 กระทง จำเลยให้การรับสารภาพ ลดเหลือโทษจำคุกรวม 121 ปี 223 เดือน พร้อมทั้งต้องชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย 8 ราย รวม 2,100,000 บาท ไปแล้วนั้น
ในคดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ขยายผลจากพยานหลักฐานไฟล์ภาพ 500,000 ไฟล์ภาพ จนสามารถยืนยันตัวเด็กผู้เสียหาย พร้อมสืบสวนหาผู้กระทำความผิด โดยพบว่าบุคคลที่ล่วงละเมิดเด็กในภาพคือ นายที (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นครูประจำอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก มีพฤติการณ์สร้างความสนิทสนม (grooming) กับเด็กซึ่งเป็นนักเรียนของตนเอง และด้วยรสนิยมส่วนตัวจะมุ่งเน้นเป็นเด็กนักเรียนชายในโรงเรียนที่ตนสังกัดอยู่ เพื่อจุดประสงค์ในการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ในฐานะที่ตนเองเป็นครูทำให้เด็กมีความไว้เนื้อเชื่อใจ จึงชักชวนไปกระทำอนาจารในสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ภายในรถยนต์ รถตู้ ห้องน้ำ ห้องโสตทัศนูปกรณ์ของโรงเรียน เป็นต้น โดยการกระทำความผิดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นภายในโรงเรียนดังกล่าว และต่อมาได้ย้ายมาประจำที่โรงเรียนในกรุงเทพมหานคร จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 6 กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) สถานีตำรวจภูธรวังทอง จังหวัดพิษณุโลก องค์การโอ.ยู.อาร์.ประเทศไทย (O.U.R. Thailand Charitable Corporation) มูลนิธิเอ-ทเวนตี้วัน (A21) และสำนักงานกฎหมาย เอส อาร์ (SR LAW) จับกุมดำเนินคดีนายทีฯ อายุ 32 ปี ได้เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564
ล่าสุด ศาลจังหวัดพิษณุโลกได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าว เลขคดีดำที่ อ614/2567 เลขคดีแดงที่ อ1068/2567 โดยได้ตัดสินพิพากษาว่า นายทีฯ มีความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี พรากเด็กไปเพื่อการอนาจาร และครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตัดสินจำคุก 111 ปี 216 เดือน ให้ชดใช้ค่าสินไหมให้ผู้เสียหายที่ 1 (เด็กชายผู้เสียหาย) เป็นเงินจำนวน 1,500,000 บาท และผู้เสียหายที่ 2 (มารดาผู้เสียหาย) เป็นเงินจำนวน 650,000 บาท กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการตรวจสอบและขยายผลเพิ่มเติม เพื่อยืนยันตัวตนของเด็กผู้เสียหาย ที่ปรากฏในภาพ พร้อมทั้งเร่งสืบสวนและติดตามผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย อันเป็นการคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่มุ่งเน้นการนำความยุติธรรมไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยไม่ให้ประชาชนต้องเป็นฝ่ายแสวงหาความยุติธรรมฝ่ายเดียว
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน