
ตำรวจภาค 6 โชว์ผลงานจับยาบ้า 12 ล้านเม็ด มูลค่า 720 ล้านบาท
วันที่ 9 ธ.ค. 2567 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ถนนพหลโยธิน ตำบลน้ำรึม อำเภอเมือง จังหวัดตาก พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา ตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก,พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รอง ผบช.ภ.6 ,และ นายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส.ภาค 6 ,พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอมกมล ผบก.ภ.จว.ตาก พ.อ.วรัญชิต หลักหาญ เสธฯ กกล.นเรศวร ,พ. พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ศรีชัยชนะ ผกก.ตชด.34 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับ ขบวนการลำเลียงยาเสพติด จากภาคเหนือ 2 รายที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน รวม 12 ล้านเม็ดมูลค่ามากกว่า 720 ล้านบาท
โดยกล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระหนักและเห็นว่ายาเสพติด คือปัญหาสำคัญของชาติ ให้ทุกกองบัญชาการตำรวจดำเนินการทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า สกัดกั้นการลำเลียงไปยังพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ การปราบปรามจับกุม ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย รวมถึงการบำบัดผู้เสพ การปราบปรามยาเสพติดอย่างเร่งด่วน ทางตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้กำชับให้ตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทางตำรวจภูธรจังหวัดตาก ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนและเป็นเส้นทางจากทางภาคเหนือสู่ภาคกลาง จึงให้ทุกสถานีตำรวจและกองกำกับการสืบสวน ดำเนินการสืบสวนหาข่าวและข้อมูลต่างๆ จากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด จึงได้ทราบว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดจากแนวชายแดนและทางภาคเหนือ ลักลอบผ่านพื้นที่จังหวัดตากเพื่อนำสู่เข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศ
คดีที่ 1 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 05.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านตาก และตำรวจทางหลวงตาก ได้ติดตามรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 1 กฉ 4243 กรุงเทพฯ ซึ่งได้ขับหลบหนีการตรวจสอบแล้วนำรถมาจอดทิ้งไว้แล้วในพื้นที่ สภ.บ้านตาก ส่วนคนขับรถได้หลบหนีไป จึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 360 ล้านบาท บรรทุกอยู่ในกระบะ จึงทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดย กก.สืบสวน ภ.จว.ตาก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 6 ทำการสืบสวนขยายผลจนสืบทราบว่า กลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด มีต้นทางจากจังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดพะเยา ลำปาง เข้าสู่จังหวัดตาก เพื่อเข้าสู่พื้นที่ ภาคกลาง จากการสืบสวนวิเคราะห์เส้นทาง ยานพาหนะ และกลุ่มเป้าหมาย จึงนำไปสู่การวางแผนจับกุมในคดีที่ 2
คดีที่ 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 จากข้อมูลการสืบสวนและวิเคราะห์ยานพาหนะ ทำให้ทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดเชียงรายเข้าสู่จังหวัดตากอีก จึงวางแผนจับกุม กระทั่งต่อมาช่วงค่ำของวันเดียวกันพบรถนำต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ขง 5206 อุบลราชธานี วิ่งเข้าสู่จังหวัดตาก จนมาถึงบริเวณสี่แยกไฟแดง รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงให้ชุดปฏิบัติการเข้าทำการตรวจสอบ พบนายไชยวัฒน์ฯ เป็นผู้ขับขี่ ขณะเดียวกันพบว่ามีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เลี้ยวซ้ายหลบหนีไปทางขนส่งจังหวัดตาก จึงออกติดตามจนกระทั่งพบจอดแอบอยู่ในซอย มีนายพัฒนา แซ่เห้อเป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะ โตโยต้า สีเทา ต้องสงสัย
ตรวจพบ
1. ยาบ้าจำนวน 25 กระสอบ จำนวน 6 ล้านเม็ด บรรทุกอยู่ในกระบะรถ รวมมูลค่ายาเสพติด ประมาณ 360 ล้านบาท จึงได้ยึดเป็นของกลาง พร้อมยึดของกลางเพิ่มเติม ดังนี้ 1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ขง 5206 อุบลราชธานี ที่นายไชยวัฒน์ฯ ใช้ขับเป็นรถนำทาง
2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน 4ฒข 2611 กรุงเทพฯ ที่นายพัฒนาฯ ใช้ขับบรรทุกยาเสพติดฯ
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า
1. ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์/เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากการสืบสวนขยายผลคดีที่
2 ของ สภ.เมืองตาก ทำให้ทราบว่าเป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกันกับที่การขนยาบ้า 6 ล้านเม็ด (คดีที่ 1) ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านตาก เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2567 โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งทำหน้าที่ รถนำขบวน รถลำเลียงยาเสพติด รถปิดท้าย ตามเส้นทาง สภ.บ้านตาก จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 6 คน ขณะนี้สามารถจับกุมได้ จำนวน 3 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม จำนวน 3 คน
สำหรับคดีที่ 2 ตรวจยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ดของ สภ.เมืองตาก เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2567 นั้น จับกุมผู้ต้องหาขณะตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 2 คน (ทำหน้าที่รถนำ และรถลำเลียง) และสืบสวนขยายผลออกหมายจับได้เพิ่มอีก จำนวน 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุม จากการสืบสวนขยายผล สามารถตรวจยึดหลักฐาน และทรัพย์สินได้เพิ่มเติม คือ 1. รถยนต์ กระบะ จำนวน 3 คัน 2. จี้ทองคำ จำนวน 6 ชิ้น 3. แหวนทองคำลวดลายต่างๆ จำนวน 6 วง 4. สร้อยคอทองคำลายต่างๆ จำนวน 8 เส้น 5. เงินสด จำนวน 627,000 บาท 6. สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม รวมมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านบาท
ทั้งสองคดีเป็นคดีที่เกี่ยวพันกัน ทั้งกลุ่มบุคคล ขบวนการ ซึ่งประมาณการมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ จำนวน 12 ล้านเม็ดมีมูลค่ามากถึง 720 ล้านบาท สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือ จะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป และจะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นการตัดวงจรท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก รายงาน