
สลด! กระบะเสียหลักชนท้ายรถ 10 ล้อ เสียชีวิตสยองคาซากรถ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ บริเวณถนนพระราม 2 บริเวณจุดกลับรถโรงพยาบาลวิภาราม กม.ที่ 38 ช่องทางคู่ขนาน หมู่ 2 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลวิภาราม (สมุทรสาคร) โรงพยาบาลมหาชัย 1 โรงพยาบาลเจษฎาฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาวหมายเลขทะเบียน 70 – 9452 ราชบุรี จอดอยู่ช่องทางซ้ายสุด และและบริเวณด้านท้ายรถพบรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 1 ฒธ 4718 กรุงเทพฯ สภาพด้านหน้า มุดเข้าไปใต้ท้ายบรรทุกจนหลังคาเปิดด้านหน้ารถพังยับ จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายติดอยู่ในซากรถกระบะคันดังกล่าวบริเวณเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 30 นาที จึงสามารถนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากรถได้
จากการตรวจสอบภายในตัวผู้เสียชีวิต พบกระเป๋าเงินและเอกสาร ระบุชื่อว่านายสุชิน ฟ้าขาว อายุ 58 ปี ซึ่งจากการสอบถามผู้ขับขี่รถบรรทุก 10 ล้อ เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าวมาจอดต่อกับรถคันอื่นไว้บริเวณไหล่ทางจุดที่เกิดเหตุแล้วลงไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวยังไม่ถึง 10 นาที ก็ได้ยินเสียงเหมือนยางรถแตกจึงได้เดินกลับมาดู ก็พบว่าเป็นเสียงของรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุกของตนที่จอดอยู่อย่างจังจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า ลักษณะของการชนนั้นในที่เกิดเหตุไม่มีร่องลอยของการเบรคเลย ซึ่งสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดอาการหลับในหรือวูบก็เป็นได้ แต่อย่างไร ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุอีกครั้ง และสอบปากคำคนขับรถบรรทุก 10 ล้อและคนที่เห็นเหตุการณ์ไว้ในเบื้องต้น
ก่อนที่จะได้นำรถทั้ง 2 คันมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และเชิญผู้ขับขี่มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.เมืองอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้นได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลสมุทรสาครชันสูตรเพิ่มเติมและจะเร่งประสานญาติของผู้เสียชีวิตมารับศพไปประกอบประเพณีตามศาสนาต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร รายงาน