พบกว่าพันล้าน! เส้นเงินเชื่อมโยง หวานใจบิ๊กการเมือง เอี่ยวรีสอร์ท ไร่ภูนับดาว รุกที่ดิน ส.ป.ก.
ความคืบหน้าคดีรีสอร์ทภูนับดาวรุกที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งตอนแรกมีข้อมูลว่า มีเส้นเงินของบริษัทที่โยงใยไปถึง หวานใจการเมือง จำนวน 10 ล้านบาท แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าเส้นเงินดังกล่าวมีมูลค่ามากถึง 800 - 900 ล้านบาทเลยทีเดียว
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า คดีนี้เป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงเกษตรฯ ป.ป.ท. ปปง. และมีข้าราชการจำนวนมากเกี่ยวข้องหมิ่นเหม่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ประกอบการด้วย ซึ่งตอนแรกที่ตนให้สัมภาษณ์คิดว่า คดีจะอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปป. แต่เพิ่งมาทราบว่า คดีนี้ ปปป. ไม่ได้ทำ ตนจึงไม่มีอำนาจในการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เชื่อว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบ มีการนำที่ดินไปออกให้กับผู้ต้องหาที่เคยถูกจับกุม เมื่อปี 2558 เมื่อผู้ต้องหาพ้นโทษมาก็ออกเอกสารสิทธิ์ จากนั้นก็มาคืนเอกสารสิทธิ์ให้กับ ส.ป.ก. ก่อนที่ ส.ป.ก.จะก็นำเอกสารสิทธิ์ไปให้ผู้ประกอบการเช่า ทราบว่าขณะนี้ น่าจะมีสถานะเป็นผู้ครอบครองสิทธิ์ หรือที่เรียกว่า บัตรแข็ง
ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ เป็นการฉ้อฉลนำที่ดินของรัฐมาแปลงให้เป็นของผู้เช่า ตั้งเป็นบริษัท โดย ป.ป.ท. ได้ทำรายละเอียดคดีมาเยอะมากพอสมควร แล้วส่งคดีไปทาง ป.ป.ช.แล้ว แต่ทาง ผ.อ.ป.ป.ท. ก็ยังมีข้อสงสัยหลายอย่างที่อยากจะสืบสวนต่อ จึงนำเอกสารทั้งหมด มาให้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ป. ทำการสืบสวนต่อ และเอกสารอีกส่วน มอบให้กับ ปปง.ไปสืบสวนเรื่องเส้นทางการเงินต่อ
นอกจากนี้ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังบอกอีกว่า ตนอยากทำคดีนี้มาก เพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เส้นเงินที่ตรวจพบเป็นไปตามที่ตนพูดไว้ คือ โยงไปถึงหวานใจนักการเมือง และจำนวนเงินก็มากถึง 900 ล้าน หรือพันล้าน แต่จะเป็นเงินอะไรมาจากไหน ตนยังอธิบายไม่ได้ แต่อย่างน้อย เรื่องนี้มีกลุ่มข้าราชการ รวมทั้งคนที่ไปครอบครองที่ดินดังกล่าวเกี่ยวข้อง หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่า กรณีที่ทางบริษัทศรีสวัสดิ์ชี้แจง ว่าเงินที่โอนไปทีละเกือบ 2 ล้านบาท หลายครั้งรวมเป็นยอด 10 ล้านก่อนหน้านี้ เป็นเงินที่ชำระเงินต้นหุ้นกู้ หากข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้น จะสามารถตัดเส้นทางการตรวจสอบเส้นเงิน 800 - 900 ล้านได้เลยหรือไม่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า บริษัทก็มีสิทธิ์ชี้แจง เจ้าหน้าที่ก็มีหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งก็ต้องไปดูว่า การโอนเงิน เป็นการโอนจากผู้บริหาร หรือออกมาในรูปบริษัท ต้องดูให้ชัดเจนว่า ใครเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้องเอาคดีรุกที่ ส.ป.ก. กับการทุจริตของเจ้าหน้าที่เป็นตัวตั้งก่อน เพราะว่าจะเข้าเรื่องการฟอกเงิน