ตำรวจไซเบอร์จับบัญชีม้า หลอกลงทุนเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 3 ธ.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. รรท. ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 จับกุมตัวนายสุธน (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา 3 หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1901/2567 ลงวันที่ 1 พ.ย.2567 ศาลอาญาที่ 5455/2567 ลงวันที่ 12 พ.ย. 2567 ศาลแขวงอุบลราชธานี ที่ จ.172/2567 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2567 จับกุมตัวที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 162/2 ม.11 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายสุธนอิ่มใหญ่ ซึ่งเป็นบัญชีม้าในคดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Facebook มูลค่าความเสียหายกว่า 2,600,000 บาท และเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาที่ได้พักอาศัยอยู่ที่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว จึงไปตรวจสอบพบนายสุธน เป็นบุคคลตามหมายจับอยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมตัว ความเสียหายทั้งหมด 2.7 ล้าน
จากการสอบสวนนายสุธน ให้การยอมรับว่า ตนเองทำงานอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยมีเพื่อนชักชวนรับจ้างเปิดบัญชีทั้งหมด 5 บัญชี ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้เงินค่าจ้าง 4,000 บาท โดยตนเองไม่ทราบว่าบัญชีทั้งหมดเอาไปใช้หลอกไฮบริด สแกม หลอกเทรด เงินดิจิตอล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงิน อิเล็กทรอนิกส์ของตน
โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1901/2567 ลงวันที่ 1 พ.ย.2567 ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และ ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ตามหมายจับศาลแขวงอุบลราชธานี ที่ จ.172/2567 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2567 จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน