ตำรวจนครบาลปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
วันนี้ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงกำหนดให้เปิดปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย ผู้ถูกซัดทอดตามข้อมูลการซักถามขยายผลยาเสพติด ในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเป้าหมายสำคัญแรก และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดอื่นที่หน่วยกำลัง ดำเนินการสืบสวนอยู่เพื่อปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในพื้นที่ไปพร้อมกัน
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. จึงสั่งการให้ ทุกหน่วยในสังกัด ปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในห้วงระหว่างวันที่ 22 – 29 พ.ย.67 โดยมีผลการปฏิบัติ ดังนี้
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาด ยาเสพติด จำนวน 243 เป้าหมาย จำนวนเครือข่ายยาเสพติดที่เข้าดำเนินการปราบปราม จำนวน 47 เครือข่าย โดยมีผลการจับกุมดังนี้
- ผลจับกุมรวมทุกข้อหา จำนวน 281 คดี
- จับกุมตามหมายจับ 42 คดี
- ผลจับกุมข้อหาร้ายแรง จำนวน 124 คดี
สมคบ,สนับสนุนฯ 3 คดี
จำหน่ายฯ 34 คดี
ฟอกเงิน 1 คดี
ครอบครองฯ 86 คดี
- ผลจับกุมข้อหาไม่ร้ายแรง จำนวน 153 คดี
ครอบครองเพื่อเสพ 14 คดี เสพ 139 คดี
- ตรวจยึดของกลางยาเสพติด
ยาบ้า จำนวน 4,389,262 เม็ด ไอซ์ จำนวน 156 กิโลกรัม คีตามีน จำนวน 3.3 กิโลกรัม ยาอี จำนวน 60 เม็ด
- ตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่ารวม จำนวน 6,200,893 บาท
โดยมีผลปฏิบัติการต่อเป้าหมายรายสำคัญ ของหน่วยในสังกัด บก.น.3, บก.น.8 และ บก.น.9 ดังนี้ กองบังคับการตำรวจนครบาล3 พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.บก.น.3, พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์รองผบก น.3 พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3. และพ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี ได้สั่งการให้ชุด จับกุมประกอบด้วย พ.ต.อ.สุทธิพร สุกก่ำ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น. หัวหน้าชุด ชปส. บก.น.3 ติดตามจับกุมตัว ผู้ต้องหา 3 รายคือ นายกิตติศักดิ์, นายธีรพงศ์ และ นายบอล จากสืบสวน จากผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่มีนบุรี และได้ทำการขยายผลไปยังกลุ่มผู้เสพ (เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน) ซึ่งอยู่ในพื้นที่อ่อนนุช 86 จากการขยายผลทราบว่าผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่มีนบุรีและอ่อนนุช 86 ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดของ “นายยอด อ่อนนุช 86 (ชุมชนกองขยะ)” สืบสวนพบว่า
เครือข่ายยาเสพติดของนายยอดจะใช้รถยนต์ฮอนด้าแจ๊สในการส่งยาเสพติดให้กับลูกค้าในย่านอ่อนนุชและประเวศ จึงสะกดรอยติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว จนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดนี้ ได้มีการเช่าบ้านเพื่อใช้สำหรับพักยาเสพติด ณ หมู่บ้านบางนาวิลล่า ซอยบางนา-ตราด 39 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จนกระทั่งวันที่ 27 พ.ย.67 เวลาประมาณ 03.00 น. พบการเคลื่อนไหว ของกลุ่มเครือข่ายนายยอด มีการเตรียมการเพื่อที่จะนำยาเสพติดเข้ามาพักในบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าตรวจค้นและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาที่ 1, 2 และ 3 พยายามวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าไปในบ้านที่ใช้พักยาเสพติดและกระโดดข้ามกำแพงด้านหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องที่ 1 และ 2 ไว้ได้ จึงได้แจ้งวัตถุประสงค์ขอทำการตรวจค้น และก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์แก่ ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางยาบ้าประมาณ 4,200,000 เม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางพร้อมด้วย รถยนต์ที่ใช้ขนส่งยาเสพติดจำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 03.00 น. ณ หมู่บ้าน บางนาวิลล่า ซอยบางนา-ตราด 39 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ต่อมากองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.8 ,พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รอง ผบก.น.8 ,พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 ร่วมกันจับกุมตัว นายศรเพชร อายุ 29 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 602/2567 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน”ตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 2 รายการ ดังนี้
1.เงินสด 3,081,767 บาท
2.รถยนต์ ฮอนด้า CIVIC 1 คัน จับกุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณริมถนนพหลโยธิน ใกล้ด่านพรมแดนแม่สาย แห่งที่ 1 อำเภอแม่สาย ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 177 หมู่ 7 ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ต่อมา กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9, พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 มีผลปฏิบัติการ ต่อเป้าหมายรายสำคัญของพื้นที่ บก.น.9 จำนวน 2 คดี ประกอบด้วย 1. กก.สส.บก.น.9, สน.แสมดำ จับกุมเครือข่ายยาเสพติด “WESTSIDE ชุมชนวัดอินทาราม” 2. สน.หลักสอง, สน.ท่าข้าม จับกุมนายสุริยะ เครือข่ายยาเสพติด นายอานนท์ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหา “ฟอกเงิน” เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท
โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. สืบนครบาล 9, สน.แสมดำ รวบเครือข่าย “Westside ชุมชนวัดอินทาราม” พร้อมของกลาง ยาบ้า 90,000 เม็ด ไอซ์32 กิโลกรัม และ เคตามีน 1 กิโลกรัม วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 20:00 น. จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายสุรศักดิ์หรือเอฟ อายุ31 ปีภูมิลำเนาแขวงบางยี่เรือ เขตธนบุร กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาที่ 1 และนายกัมพลหรือมิ้ว อายุ31 ปีภูมิลำเนา อ.พุทธมณฑล นครปฐม ผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 90,000 เม็ด
2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 32 กิโลกรัม
3.วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 1 กิโลกรัม
4.รถยนต์ยี่ห้อซูซูกิรุ่นสวีฟ สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า, ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และ “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถภายในวัดอินทาราม แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่าย ป้องกันปราบปราม สน.แสมดำ ได้ตั้งจุดสกัดบริเวณปากซอยแสมดำ ซ.2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน พร้อมของกลาง ไอซ์น้ำหนัก 3 กิโลกรัม อาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก และ รถยนต์กระบะจำนวน 1 คัน ส่ง สน.แสมดำ ดำเนินคดีและ ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้สน.แสมดำ และ กก.สส.บก.น.9 บูรณาการร่วมกันสืบสวนขยายผล จนทราบว่าคนร้ายทั้ง 3 คน ไปรับยาเสพติดมาจาก ย่านวัดอินทาราม ท้องที่สน.บางยี่เรือ จึงได้ทำการ สืบสวน พบกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด อำพรางโดยการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณ ลานจอดรถวัดอินทาราม และมีพฤติการณ์มาเอายาเสพติดที่ซุกซ่อนไว้ในรถออกไปจำหน่ายให้ลูกค้า จึงวางแผนการจับกุม
ต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 20:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กระจายกำลังอยู่บริเวณลานจอดรถวัดอินทาราม ได้มีผู้ต้องหาทั้งสองคน เดินเข้ามาเปิดประตูรถยนต์ ของกลาง เพื่อจะมาเอายาเสพติดที่ซุกซ่อนไว้ในรถดังกล่าวไปจำหน่ายให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด จับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าทำการกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2คน ตรวจค้นภายในรถยนต์พบของกลาง ยาบ้า ไอซ์และ เคตามีน ซุกซ่อนในรถดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อหาพร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย นำส่ง สน.บางยี่เรือ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2.จับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้อหาฟอกเงิน เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 จับกุม นายเอกพงศ์หรือต้า อายุ30 ปีพร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 33 เม็ด , โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ ออปโป้จำนวน 1 เครื่อง ข้อหา จำหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย นำส่ง สน.หลักสอง
จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลนำไปสู่การออกหมายจับ นายอานนท์หรืออ๊อฟ อายุ29 ปี ข้อหา “จำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำเพื่อการค้า และ สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำ ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุ ที่ได้มีการสมคบกัน” ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 484/2566 ลงวันที่15 มิ.ย.2566
ต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ได้จับกุมนายอานนท์หรืออ๊อฟ อายุ29 ปีตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรีที่ 484/2566 ลง 15 มิถุนายน 2566 และจับกุม น.ส.วรรณวิษา หรือน้ำตาล อายุ 28 ปี(แฟนสาวนายอานนท์) พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 16,160 เม็ด และ เคตามีน จำนวน 1 กิโลกรัม นำส่ง สน.เพชรเกษม จากการสืบสวน สอบสวนขยายผล และ การสืบสวน สอบสวนเส้นทางการเงิน พบเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดเชื่อมโยงไปที่ นายสุริยะ อายุ29 ปี ซึ่งจากการสืบสวน เส้นทางการเงินของนายสุริยะฯ พบมีการใช้บัญชีธนาคารจำนวน หลายบัญชีและหลายธนาคาร เงินหมุนเวียน กว่า 10 ล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐาน
ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ นายสุริยะฯ ในความผิดฐาน “ฟอกเงิน” ซึ่งศาลอาญาธนบุรี ได้อนุมัติหมายจับ ตามหมายจับที่ 1027/2567 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 ในความผิดฐาน “ฟอกเงิน”
ต่อมา วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้จับกุมนายสุริยะ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 1027/2567 ลง 19 พ.ย. 2567 ข้อหา “ฟอกเงิน” ซึ่งจากการสืบสวน สอบสวนพบว่าเครือข่ายของนายอานนท์หรืออ๊อฟ และ นายสุริยะ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้านบาท (สิบล้านบาท) ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินเพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน