ไล่ล่าขบวนขนต่างด้าว 2 คันรถ พบต่างด้าวกว่า 20 ราย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์) นำโดย พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) นำโดย พ.ต.ต.พิฆเนศ เตรียมเกิดทรัพย์ สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) นำโดย พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1. นายไกรวิชญ์ฯ อายุ 24 ปี สัญชาติ ไทย (ผู้ขับขี่)
2. นายไกรวิชญ์ฯ อายุ 21 ปี สัญชาติ ไทย (ผู้ขับขี่) โดยกล่าวหาว่า “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
3. ผู้ถูกจับที่ 3-22 บุคคลต่างด้าว สัญชาติ เมียนมา โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม บริเวณ ทล.225 ต.ทับกฤชใต้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์), ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(พระนครศรีอยุธยา), ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.225 ต.ทับกฤชใต้อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พบ รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง และมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ติดตามอย่างกระชั้นชิด พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดฟิล์มสีดำมืดทึบต้องสงสัยมีพิรุธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและ ใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์ จำนวน 2 คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ทล.225 ต.ทับกฤชใต้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบ พบนายไกรวิชญ์ฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ โดยพบมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์ และ นายไกรวิชญ์ฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์
โดยพบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ถูกจับกุมพร้อมรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรชุมแสง ภ.จว.นครสวรรค์ พบว่า ผู้ถูกจับที่ 3-22 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1-2 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 20 คน ที่บริเวณ พื้นที่ ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยได้ค่าจ้าง 10,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ ในส่วนของบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 18,000 - 20,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชุมแสง ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน