ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายหลอกให้รักแล้วลงทุน ต้มคุณหมอเทรดทอง เสียหายมากกว่าห้าแสนบาท
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าได้เล่นแอปพลิเคชัน Tinder พบเจอบุคคลหนึ่งมีการพูดคุยชักชวนเทรดทอง เมื่อลงทุนเทรดช่วงแรกได้รับเงินจริงจึงหลงเชื่อ ต่อมาจึงถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 507,000 บาท
พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.ฯ รรท. ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนจนทราบว่าหนึ่งในเครือข่ายดังกล่าวคือ นางสาวชลธิชา อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอหมายจับ ตามศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 605/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2567
กระทั่งวันที่ 18 พ.ย. 2567 เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.ท.ชนาธิป ญาณัปปสุต สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวน ได้ร่วมจับกุมตัวนางสาวชลธิชา อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดย,สนับสนุนบุคคลอื่นให้ฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก ของตนโดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ บริเวณสถานีรถไฟอยุธยา ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เบื้องต้น นางสาวชลธิชาฯ ให้การรับสารภาพ โดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 7,000 บาท และได้ถูกชักชวนว่า หากเดินทางไปสแกนหน้าที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับเงินเป็นรายครั้งที่มีการโอนเข้า โดยได้เดินทางไปสแกนหน้าล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ย. จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่นต่อไป นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร รายงาน