จับ 2 หนุ่มบัญชีม้า ช้ำ 1 ในนั้นอดีตแฟนสาวให้ไปเปิดบัญชี ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกเหยื่อให้กู้เงิน พบเงินหมุนเวียนเกือบ 5 ล้านบาท

จับ 2 หนุ่มบัญชีม้า ช้ำ 1 ในนั้นอดีตแฟนสาวให้ไปเปิดบัญชี ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกเหยื่อให้กู้เงิน พบเงินหมุนเวียนเกือบ 5 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.ชัยพร เฮงจิตตระกูล รอง ผกก.1 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ท.โสภณัฐ กลัดเกษา สว.กก.1 บก.ปอศ., ร.ต.อ.วีระศักดิ์ ชัยอินทร์ , ร.ต.ท.ประกิจ เฉลิมหมู่ , ร.ต.ต.สมศักดิ์ ผิวอ่อน รอง สว.กก.1 บก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.2 กก.1 บก.ปอศ. ได้ร่วมกันจับกุม

1. นายนรินธรฯ อายุ 20  ปี ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 5423/2567 ลง 11 พ.ย.67

2. นายวีระทัศน์ฯ อายุ 20 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 5421/2567 ลง 11 พ.ย.67 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ตรวจสอบพบว่า นายนรินธรฯ อายุ 20  ปี และ นายวีระทัศน์ฯ อายุ 20 ปี เป็นบุคคลตามหมายจับซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารขบวนการหลอกปล่อยเงินกู้ โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายหลอกลวงว่าสามารถให้กู้เงินจำนวน 50,000 บาท ในระยะเวลาการกู้เงิน 24 เดือน ผ่อนเดือนละ 2,416 บาท โดยคนร้ายให้ผู้เสียหายโอนค่าประกันสินเชื่อเงินกู้ก่อนจำนวน 5,020 บาท โดยเงินประกันจะได้คืนภายในระยะเวลา 3 เดือน ต่อมาได้หลอกลวงผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายไม่ได้ใส่บันทึกช่วยจำ และให้โอนเงินไปใหม่จำนวน 5,020 บาท

จากนั้นคนร้ายได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าผู้เสียหายใส่เลขที่บัญชีธนาคารผิด ต้องโอนเงินเพิ่มจำนวน 10,500 บาท เพื่อเป็นค่าปลดอายัดบัญชี โดยอ้างว่าจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวคืนพร้อมเงินกู้ แต่ภายหลังคนร้ายยังหลอกลวงผู้เสียหายซ้ำอีก โดยหลอกให้โอนเงินจำนวน 30,000 บาท มาก่อนจึงจะได้รับเงินคืนพร้อมกับเงินกู้

จนท้ายที่สุดคนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปเพิ่มอีกจำนวน 50,000 บาท เพื่อทำการร่างสัญญาใหม่ โดยอ้างว่าผู้เสียหายทำผิดเงื่อนไข แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินแล้วจึงไม่ประสงค์ขอเงินกู้และต้องการขอเงินที่เคยโอนเงินไปทั้งหมดคืน แต่ปรากฎว่าคนร้ายได้บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงิน ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ทำการสืบสวนติดตามตัวจนพบว่านายนรินธรฯ (ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 1) ปัจจุบันย้ายจากภูมิลำเนาบ้านเกิด มาทำงานในจังหวัดพื้นที่ปทุมธานี และ นายวีระทัศน์ฯ (ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 2) ทำงานก่อสร้างอยู่ที่ จ.จันทบุรี จึงได้ทำการติดตามจับกุมตัวนายนรินธรฯ และ นายวีรทัศน์ฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การเบื้องต้น นายนรินธร (สงวนนามสกุล) ให้การว่า อดีตแฟนสาวของตนพาไปเปิดบัญชีกับทางธนาคาร แล้วอดีตแฟนสาวนำไปใช้ โดยที่ตนไม่ทราบว่านำไปใช้ก่อเหตุในลักษณะนี้ ต่อมาบัญชีดังกล่าวถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำไปใช้ในการกระทำความผิด และมีเงินหมุนเวียนตั้งแต่ มกราคม 2566 เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,500,000 บาท ส่วน นายวีระทัศน์ฯ ไม่ทราบว่าบัญชีดังกล่าวเป็นชื่อของตนได้อย่างไร แต่เงินหมุนเวียนในบัญชีมีจำนวนประมาณ 3 ล้านกว่าบาท แม้ผู้ต้องหาจะอ้างว่าไม่ทราบหรือถูกหลอก แต่หากบัญชีถูกนำไปใช้ ในการกระทำความผิด ผู้ที่เปิดบัญชีอาจต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ