ตามนโยบายการบริหารราชการ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ทำการปราบปรามอาชญากรรมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท. รรท.ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ควบคุมและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรว กก.4 บก.สอท.1 สืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันที่ 14 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.4 บก.สอท. 1 ได้สืบทราบว่า นายภูผา (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมหาสารคาม ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะฯ, สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ, และร่วมกันฟอกเงิน และเป็นธุรจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวด้วยประการใดเพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด” มาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.คมสันต์  กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณภายในซอยงามวงศ์วาน 27 ตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและทำการสืบสวนขยายผลกับคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

 พฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหา จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดโดยเข้าข่ายเป็นผู้ใช้ จ้าง วาน ให้บุคคลที่ตนเองรู้จักซึ่งถูกจับกุมและดำเนินคดีมาแล้วก่อนหน้านี้ ไปติดต่อหาเหยื่อเพื่อเปิดบัญชีธนาคารต่างๆ มาใช้ในการกระทำความผิด (บัญชีม้า)  จากนั้นนายภูผาฯ จะเป็นผู้รวบรวมบัญชีม้าดังกล่าวส่งให้กับกลุ่มแก็งค์คอลเซนเตอร์ในจังหวัดต่างๆตามแนวชายแดนทางไปรษณีย์เอกชน ระบุชื่อผู้รับ(ปลอม) แต่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับ เพื่อติดต่อในการรับพัสดุดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลออกหมายจับโดยศาลจังหวัดมหาสารคาม ได้อนุมัติหมายจับและนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน