ด่วน! บุกรวบ ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดัง
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายปวิชญา อายุ 48 ปี หรือ ครู NEWtsbs ครูติวเตอร์เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ข้อหากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ”
โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนหน้าคอนโด ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหามีพฤติกรรมก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT หรือข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่งชื่อ “NEWtsbs”
โดยเปิดสอนอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาด ทำให้ธุรกิจโรงเรียนติว ซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหาย ซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียน ซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตน และผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ
โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้น สามารถสอบข้อสอบ SAT และการอ่านภาษาอังกฤษ และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา นั้น เดิมทีตนสามารถช่วยได้ โดยตนมีแนวข้อสอบซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้อง ตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก
จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ทั้งนี้ ในระหว่างคุมตัวเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลชุดจับกุม ช่วยเหลือ โดยการเสนอให้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกดำเนินคดี จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี
2) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย
ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ”ท้องที่ สน.ทองหล่อ 4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค”