วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร.พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.2 บก.จร. พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิตทางพิเศษ กก.2 บก.จรสั่งการให้ พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ดำเนินการลงพื้นที่สืบสวนวางแผนจับกุม ผู้ต้องหา นายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน สถานที่เกิดเหตุ ถนนวิภาวดีช่องด่วน (ขาออก) หน้าหน้าสโมสรทหารบก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา นายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล) กระทำผิดกฎหมายในฐานความผิด “จัด โฆษณา ประกาศ ชักชวนแข่งรถ และพยายามขับรถแข่งในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจร และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น”

พฤติการณ์กล่าวคือ  สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรงานศูนย์ควบคุมจราวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. ได้ทำการสืบสวนพบว่าจะมีการรวมกลุ่มรถจักรยานยนต์แข่งกันในทางพื้นที่ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีการนัดหมายรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถ หรือรถดัดแปลง/ปรับแต่ง มีสภาพไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือ มีพฤติการณ์อันแสดงให้เห็นว่าจะทำการพยายามแข่งรถในทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนทำการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมกลุ่มรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดีฯ ปิดล้อมสกัดจับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มีพฤติกรรมรวมกลุ่มสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้าน บนถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมกันที่บริเวณปั๊มเซลล์

จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 20 -30 คันแล่นไปตามถนนวิภาวดีขาออก อันเป็นทางสาธารณะ โดยรวมกลุ่มกันขับขี่จนเต็มทุกช่องทางจราจร ในลักษณะส่ายไปส่ายมา ทำให้รถคันอื่นที่ใช้ทางไม่สามารถแซงขึ้นไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อม กลุ่มผู้ต้องหาได้พยายามหลบหนีการจับกุม โดยขับขี่รถฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง (ย้อนศร) สามารถจับผู้กระทำความผิดทั้งหมด 66 คัน ในจำนวนนี้มี 19 คัน 22 คน ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดข้อหา พยายามแข่งรถในทาง และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยซึ่งผู้ขับขี่มีทั้งเยาวชนและผู้ที่บรรลุนิติภาวะ โดยผู้กระทำความผิดนี้ถูกนำตัวส่งศาลเพื่อให้พิจารณาคดี  และรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 47 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เช่นไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และปรับแต่งสภาพรถ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.67ศาลได้พิพากษาคดีแล้วนั้น

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลการสอบสวนกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มารวมกลุ่ม และถูกทำการจับกุมมาจากเพจเฟซบุ๊คชื่อ”รถบ้านโก๋” ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจติดตามเพจกว่า 5,000 คน จนสามารถพิสูจน์ทราบเจ้าของเพจดังกล่าว มีนายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล) เป็นแอดมินและเจ้าของเพจ “รถบ้านโก๋” ได้นัดหมายการรวมกลุ่ม ในวันที่ 23 ต.ค.67 และนายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล) ก็ได้มาในวันที่เกิดเหตุด้วย ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาว่า “จัด โฆษณา ประกาศ ชักชวนแข่งรถ และพยายามขับรถแข่งในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจร และขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น” ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมานำตัวส่งศาลแขวงดุสิต ศาลแขวงดุสิตจึงพิพากษาลงโทษ “กักขังจำนวน 3 เดือน พร้อมริบรถจักรยานยนต์ ของกลาง”

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว กรุงเทพมหานคร รายงาน