ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้อง บิ๊กโจ๊ก ยันคำสั่งให้ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้อง บิ๊กโจ๊ก ยันคำสั่งให้ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 พ.ย. 2567 ที่ศาลปกครองกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยมีรายงานว่า ในที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดวันนี้ ประกอบด้วยองค์ประชุมใหญ่คณะตุลาการจากศาลปกครองสูงสุด 57 คน

พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร. หรือบิ๊กโจ๊ก ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.), นายกรัฐมนตรี เป็น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 กรณีมีคำสั่งให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม

จากกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ BNKMaster จนถูกดำเนินคดีอาญาและถูกศาลอาญาออกหมายจับ ในความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและมีการทำผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินโดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ องค์คณะเล็กประกอบด้วยตุลาการ 5 คน พิจารณามีมติ 5 ต่อ 0 เห็นว่าคำสั่งให้ออกจากราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยในขั้นตอนการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด องค์คณะที่พิจารณาสำนวนทั้ง 5 คน จะมีหน้าที่บรีฟข้อเท็จจริง เสนอความเห็นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด เเละจะมีการอภิปราย มีมติเป็นคำพิพากษาคำสั่งต่อไป จากนั้นจะแจ้งคู่กรณีทั้งหมดและประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด มีมติยกคำร้องของพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กรณีถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งของ ตร. ชอบด้วยกฎหมาย

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ