เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 จับกุมตัวนายเจียง จ้ายเทียน อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทุ่งสง ที่ 352 /2567 วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นช่องโจร ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

สืบเนื่องจากเมื่อ 29 มี.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจสืบสวน ภ.8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ กสทช. กว่า 100 นาย เข้าปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย,ชาวจีน,ชาวรัสเชียและชาวญี่ปุ่น โดยครั้งนั้นจับกุมขบวนการชาวจีน และผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวม 90 คน พร้อมยึดของกลางอีกรายหลายการ

เช่น คอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง, มือถือและซิมผี 854 เครื่อง, Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง, และบัญชีม้า 342 เล่ม ซึ่งจากการขยายผลพบความเชื่อมโยงว่าขบวนการดังกล่าวมีนางสาวเรวดี ทีปไพบูลย์ อายุ 51 ปี หรือเจ๊เล็ก รองนายกเทศมนตรีจันดี ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนมาใช้ปฎิบัติการ และได้ผลประโยชน์จากการเช่าอาศัย โดยนายเจียง เป็นหัวหน้าคนจีน ทำหน้าที่รับส่งคนจีนด้วยกันจากที่พักในหมู่บ้นจันดีแกรนด์วิลล์ ไปส่งที่โรงแรมจินเฮง ใช้รถยนต์ ยี่ห้อ Ford สีส้มทะเบียน 5 ชญ 6205 กทม ที่ขับรับส่งคนจีนเข้าออกโรงแรมจินเฮงและหมู่บ้านจันดีแกรนด์วิลล่า 3 และหลบหนีไปหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นจับกุมผู้ต้องหา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.3 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน