กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ) เจ้าหน้าที่จับกุม นำโดย พ.ต.ท.ศราวุธ อยู่สบาย สว.กก.สายตรวจฯ บก.ปพ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปพ.

ร่วมกันจับกุม นายฉัตรปริตต์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระบุรี ที่ 330/2567 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขืนได้,กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่1 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย  จังหวัดสระบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เด็กชาย ตั้ม (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ผู้เสียหายและ มารดา ได้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 เด็กชายตั้ม ถูกนายฉัตรปริตต์ฯ ข่มขืนล่วงละเมิดทางทวารหนัก มารดาเด็กชายตั้ม แจ้งว่า ตนกับสามี  ได้ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯ ไม่มีเวลาดูแลเด็กชายตั้ม จึงฝาก เด็กชายตั้มให้น้องชายของสามีดูแลไว้ที่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่ง อาของเด็กชายตั้มได้ทำงานเป็นพนักงานใน ร้านอาหารที่ นายฉัตรปริตต์ฯ เป็นเจ้าของ เด็กชายตั้มจึงมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับนายฉัตรปริตต์ฯ เป็นอย่างดี วันเกิดเหตุนายฉัตรปริตต์ฯ ได้ให้เงินเด็กชายตั้ม และบอกว่าให้เข้ามาอาบน้ำด้วยกัน จากนั้นนายฉัตรปริตต์ฯ ได้ใช้กำลังข่มขืนล่วงละเมิดเด็กชายตั้ม หลังจากวันนั้น ก็มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก 4 ครั้ง เด็กชายตั้มทนไม่ไหวจึงโทรบอกมารดา เมื่อมารดาทราบเรื่องจึงพาเด็กชายตั้มเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินคดีกับ นายฉัตรปริตต์ฯ  

ต่อมาชุดสืบสวน กก.สายตรวจ บก.ปพ. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายฉัตรปริตต์ฯ ยังไม่ทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับ จึงเข้าทำการจับกุม นายฉัตรปริตต์ฯ และได้แสดงหมายจับ ให้ นายฉัตรปริตต์ฯ ดูและอ่านจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงทำการแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหา นายฉัตรปริตต์ฯ ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน