ตร. เผย ทนายตั้ม เตรียมขนของออกนอกประเทศ
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ ถึงการจับกุม ทนายตั้มและภรรยา พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า คดีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้ตนเข้ามาดูแล ให้ตำรวจสวบสวยด้วยการรัดกุม รอบครอบ โดยที่ที่ผ่านมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานมาระยะหนึ่งจนแน่นหนา ก่อนจะออกหมายจับในวันนี้
เท่าที่ทราบ ทนายตั้มและภรรยามีพฤติการณ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะอาจรับรู้ว่าตำรวจจะออกหมายจับ เนื่องจากทางตำรวจ ขอหมายจับช่วงเวลา 11:00 น. แต่ทนายตั้มออกจากบ้านย่านตลิ่งชันในเวลา 09:00 น. วันเดียวกัน โดยขับรถมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก แต่ตำรวจได้ติดตามจนประสานตำรวจทางหลวงในพื้นที่ช่วยกันสกัดจับก่อนจะหนีออกนอกประเทศ โดยตำรวจเริ่มสะกดรอย จากสิ่งที่ตำรวจตรวจได้จน พบว่าเริ่มขับออกจากกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลจึงตัดสินใจเข้าจับกุมเนื่องจากสมรรถนะรถตำรวจไม่เทียบเท่ารถที่ทนายตั้มและภรรยาใช้เดินทาง และมีแนวโน้มออกนอกประเทศ หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจจะติดตามได้ยาก
เมื่อถามว่าทำไมทนายตั้มจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีบุคคลอื่นให้การช่วยเหลือ โดยอ้างว่า จะให้เงินเจ้าหน้าที่ตำรวจคนละ 10 ล้าน รวม 20 ล้าน หรือไม่ ประเด็นนี้ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยการออกหมายจับในวันนี้ พบว่าตัวทนายตั้มมีการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จากกรณีเจ๊อ้อยเงินจำนวน 71 ล้าน เมื่อถามว่าทนายตั้มมีพฤติการณ์อย่างไร บอกว่าตามที่ปรากฏในสื่อ มีการไปปรากฏตัวตามที่ต่างๆ
เมื่อถามขนาดจับกุมทนายตั้มมีท่าทีอย่างไร ผู้ช่วยผู้จัดการตำรวจแห่งชาติ ระบุทนายตั้มจำนวนต่อหลักฐาน ส่วนที่อ้างว่าจะไปปฎิบัติธรรมก็เป็นคำให้การของผู้ต้องหาที่มีสิทธิ์จะพูด
ผู้ช่วยผู้จัดการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุเพิ่ม นอกจากเคสของเจ๊อ้อย ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีก 3 เคส ที่เตรียมเข้าดำเนินคดีกับทนายตั้ม ซึ่งมีความเสียหายแตกต่างกันไป ส่วนพยานบางปากที่ถูกกันไว้เป็นพยานก่อนหน้านี้ จากการสืบสวนพบว่ามีพฤติการณ์เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดกับทนายทนายตั้ม ประเด็นนี้ยังต้องช่างน้ำหนักตามกฏหมาย
เมื่อถามว่าผู้ต้องหาเป็นผู้รู้กฎหมายและอาจรู้จักผู้ใหญ่ระดับสูงจะมีผลต่อคดีหรือไม่ ผู้ช่วยผู้ว่าการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ขณะที่ยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้มีปฏิบัติการคนบ้านของทนายตั้มและภรรยา จำนวน 2 จุด จุดแรก บ้านเดิมที่จังหวัดสมุทรสาคร และบ้านที่ย่านตลิ่งชันเป็นจุดที่นำเงินไปแปลสภาพ แล้วมาซื้อบ้านหลังนั้นเก่า ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้น
นอกจากนี้ ตำรวจเตรียมเข้าค้น สำนักงานกฎหมายทนายตั้มที่อยู่ใจกลางเมือง ย่านสาธร เพื่อค้นหาเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน