วันที่ 7 พ.ย. 2567 บรรยากาศภายในวัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีชาวบ้านเข้าไปทำบุญและท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และยังมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากไปให้กำลังใจ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น ภายหลังจากมีข่าว อดีตพระปลัดฉาว เปย์เงินสาวจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก

ทั้งนี้ ยังไปพบกับ พระภูวเมศฐ์ บวรจริยาศิลป์ หรือ หลวงพี่การ่า หลังโซเชียลได้นำเอาไปลงเพราะมีชาวบ้านมาทักผิดว่าเป็นรองเจ้าอาวาสบ้าง หรือมีหน้าตาหล่อ ทำให้มีชาวบ้านเข้ามาทักถามจำนวนมาก เพราะนั่งอยู่ใกล้กับพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ตลอดเวลา ที่รับกิจนิมนต์

ขณะที่ หลวงพี่การ่า กล่าวว่า ตนเองเป็นคน กทม. เดินทางมาบวชที่วัดป่าวังน้ำเย็น โดยไม่ใช่พระในข่าว ซึ่งมีชาวบ้านมาสอบถามบ่อยมาก ที่ตนเองมาบวชเพราะสนใจและเลื่อมใสศรัทธาในพระอาจารย์สุริยันต์ ตนเองเคยมาตั้งแต่ตอนเด็ก จนตอนนี้อายุ 29 ปีแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะมาบวชที่วัดนี้แค่ 15 วัน แต่ตอนนี้ก็เลย 15 วัน คงจะบวชไปเรื่อย ๆ เพราะตนเองก็ยังไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่งในตอนที่มาบวช ตอนนี้ก็เลยว่าจะยังไม่สึก คิดแต่เรื่องธรรมะอย่างเดียว จึงอยากจะฝากเตือนญาติโยมว่าในการดูข่าวก็อยากจะแยกแยะ ฟังความต้องฟังทั้ง 2 ด้าน อยากให้ทุกท่านได้มาสัมผัสความสงบในวัดป่าวังน้ำเย็นแล้วจะรู้ว่าดีมากจริง ๆ

ทางด้าน พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น กล่าวว่า เงินเปย์สาวของอดีตเจ้าอาวาส เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด ยืนยันว่าไม่มีใครเอาเงินวัดไปได้ โดยเฉพาะเงินทำบุญหรือเงินกฐิน เพราะเงินอยู่ในบัญชีวัด เพื่อนำไปสร้างพระนั่งเมืององค์ใหญ่สูง 168 เมตร เงินออกไปแค่สลึงเดียวก็มีกรรมการตรวจสอบ เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป

ส่วนประเด็นเงินส่วนตัวจำนวนมากนั้น ต้องให้เจ้าตัวชี้แจงเองว่าเอามาจากไหน โอนจากบัญชีไหน ข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการกระทำของอดีตพระรูปนั้นเท่านั้น วัดป่าวังน้ำเย็นนี่ขาวสะอาด สอนให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดี ไม่นานความจริงก็ปรากฏเอง มีขั้นตอนไม่ต้องห่วง เงินวัดไม่สามารถเอาออกไปได้หรอก