ชาวเน็ตแชร์ว่อนโซเชียล หลัง ครม. ขึ้นเบี้ยผู้พิการเป็นเดือนละ 1,000 บาท เดือน พ.ย. 67 ล่าสุด พม. เฉลยแล้ว

ชาวเน็ตแชร์ว่อนโซเชียล หลัง ครม. ขึ้นเบี้ยผู้พิการเป็นเดือนละ 1,000 บาท เดือน พ.ย. 67 ล่าสุด พม. เฉลยแล้ว

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องคณะรัฐมนตรีขึ้นเบี้ยผู้พิการเป็นเดือนละ 1,000 บาท ในเดือน พ.ย. 67 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

กรณีที่มีการส่งต่อข่าวสารเรื่องคณะรัฐมนตรีขึ้นเบี้ยผู้พิการ เดือนละ 1,000 บาท ในเดือน พ.ย. 67 ทางสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 คนพิการจะได้เบี้ยคนพิการเพิ่มขึ้นจากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน เฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเด็กพิการทั่วประเทศที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ค่าครองชีพต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระของคนพิการ และช่วยยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น

กรณีคนพิการที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หากมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) จะแจ้งให้ทราบและขอให้ติดตามข่าวสารต่อไป โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 และ สายด่วนคนพิการ 1479

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.m-society.go.th หรือโทร. 1300

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงเด็กพิการทั่วประเทศที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเบี้ยคนพิการเพิ่มขึ้นจากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563

ข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ