จากกรณีหญิงท้อง 8 เดือน ชาวจ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่า สามีที่จดทะเบียนสมรส และอยู่กินกันมา 4 ปี พาผู้หญิงที่เป็นคนทำงานโรงงานเดียวกัน เข้ามามีอะไรกันในบ้าน ขณะที่เจ้าตัวกำลังท้องได้ 8 เดือน และลากลับบ้านที่จ.ศรีสะเกษ เพื่อคลอดบุตร พร้อมนำคลิปเหตุการณ์สามีและชู้แก้ผ้าเปลือยภายในบ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 5 พ.ย.2567 ที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี หญิงตั้งครรภ์ 8 เดือน กล่าวว่า ตนกำลังตั้งท้องได้ 8 เดือน และได้ลาคลอดกลับมาบ้านที่ต่างจังหวัด เนื่องจากสามีเห็นว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่า หลังจากที่ตนกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา สามีบอกว่าไม่สบายและขอกินยาพักผ่อน ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร

น.ส.เอ กล่าวต่อว่า รุ่งเช้าวันที่ 1 พ.ย. สามีโทรมาหาตนและบอกว่า ตื่นแล้วนะ กำลังจะเตรียมตัวไปทำงาน และได้เงียบหายไปเลย ซึ่งผิดปกติ เพราะสามีจะวิดีโอคอลมาหาตลอด จึงติดต่อหาเพื่อนของสามีที่ทำงานโรงงานด้วยกัน ได้คำตอบว่า วันนี้ไม่เห็นสามีของตนมาทำงาน ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอันตราย จึงบอกน้องสาวที่รู้จัก ให้ไปดูสามีของตนที่บ้าน ว่าเป็นอะไรหรือไม่ น.ส.เอ กล่าวอีกว่า หลังจากถึงบ้านแล้ว น้องสาวของตนก็พยายามเรียกหลายครั้งแต่ก็ยังไม่มีใครตอบ และมีรถเก๋งจอดอยู่บ้าน ตนจึงให้น้องสาววิดีโอคอลหาตน และพยายามเปิดประตูหน้าต่างภายในบ้าน น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า จนสุดท้ายสามารถแงะหน้าต่างได้ 1 บาน ก่อนจะเห็นภาพของสามีตนซึ่งจดทะเบียนสมรสด้วยกัน และอยู่ด้วยกันมาถึง 4 ปี และหญิงอื่นภายในห้อง สภาพเปลือยเปล่า เขาพากันมามีอะไรภายในบ้าน ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่า ตนกำลังจะคลอดลูกแล้วในอีกไม่นานนี้ โดยตนก็ให้น้องบันทึกวิดีโอไว้ น.ส.เอ กล่าวว่า

หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปวิดีโอที่เกิดขึ้น ซึ่งหญิงคนที่อยู่ภายในห้องกับสามีตน ก็เป็นคนที่ทำงานโรงงานเดียวกับสามี และตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ ช่วงที่ตนตั้งท้องอยู่ประมาณ 2 เดือน ตนก็เคยจับได้ว่า สามีตนกับหญิงคนนี้แอบติดต่อมีสัมพันธ์กัน แต่เรื่องนี้ก็ได้พูดคุยและรับปากแล้วว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น น.ส.เอ กล่าวต่อว่า หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ญาติพี่น้องของทางสามีก็ติดต่อมาหาและพยายามขอโทษ แต่ตนยังไม่พร้อมที่จะคุย เพราะทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ โดยเป็นทางแม่ของสามีติดต่อมา และพูดคุยกับแม่ของตน แต่ด้วยความโมโหและความแค้นในตัวหญิงที่มาเป็นชู้กับสามี จึงไม่สามารถพูดคุยกันได้ลงตัว และยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า ในช่วง 3-4 ปีที่คบกันกับสามี เป็นช่วงที่ดีมาก และสามีเขาปฏิบัติกับตนเป็นอย่างดี จนตัดสินใจจดทะเบียนสมรส วางแผนมีลูกด้วยกัน แต่ในช่วงที่ตนตั้งท้อง สามีของตนตั้งแต่ติดต่อกับหญิงคนนี้ ก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ น.ส.เอ กล่าวว่า ตนเสียใจกับเรื่องนี้มาก และก็หวังพึ่งกับสามีในเรื่องของค่าคลอดบุตร เพราะตนไม่ได้ทำงานในช่วงนี้ แม้แต่เงินค่าคลอดบุตรยังไม่มี ส่วนหญิงคนดังกล่าวก็ควรจะได้รับผลกรรมกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้ เพราะก็รู้อยู่เต็มอกว่า ตนกำลังตั้งท้อง รู้ว่าสามีของตนมีภรรยา และรู้ว่าตนกับสามีจดทะเบียนสมรสกันแล้ว น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องนี้ตนจะดำเนินการฟ้องชู้ เพราะเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ตนจับได้ในเรื่องนี้ ส่วนอนาคตกับสามีจะเป็นอย่างไรตนยังไม่พร้อมที่จะให้คำตอบและขอโฟกัสเรื่องลูกเป็นหลักก่อน

ที่มา khaosod