กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ. ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยมรอง ผกก.1 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.บุรินทร์ กะปิตถา สว.กก.1 บก.ปคม., ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ หุนตระณี, ว่าที่ ร.ต.อ.เอกกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม., ร.ต.ต.หญิง พรทิพย์ ธานี รอง สว.(ป) กก.1 บก.ปคม., ด.ต.เอกพิสิฐ รัฐเดชน์โภคิน, ด.ต.ศรีสุวรรณ วงศ์ศิริ, ด.ต.หญิง ปรัชนันท์ วรรณกลาง,   จ.ส.ต.ปัญญา โรมรัมย์, จ.ส.ต.วิรัตน์ อุบล ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายพันแสงฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาพระโขนง ที่ 192/2567 ลงวันที่ 1 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา มีสำนักข่าวได้นำเสนอข่าวกรณีคนร้ายบุกฟันเจ้าของอู่ซ่อมรถ อ้างแค้นเพราะเชื่อว่าเป็นสาเหตุให้พี่ตนจบชีวิตตัวเอง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา รับแจ้งเหตุชายถูกฟันบาดเจ็บ พบผู้บาดเจ็บ คือ นายคำรณฯ เจ้าของอู่ อายุ 41 ปี มีบาดแผลลึกที่แขนซ้าย อยู่ในอาการมึนเมา ไม่รู้สึกตัว จากการสอบสวนพยานให้การว่า ขณะที่นายคำรณฯ กำลังดื่มสุรากับลูกน้องในอู่รถของตนนั้น นายปอ และนายพันแสงฯ หรือมอส (ผู้ถูกจับกุม) ซึ่งเป็นญาติของอดีตภรรยานายคำรณฯ (ผู้บาดเจ็บ) เดินเข้ามาพร้อมมีด และกล่าวหาผู้บาดเจ็บเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวของทั้งสองจบชีวิตลง ก่อนจะลงมือฟัน นายคำรณฯ จนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางนา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายพันแสงฯ หรือมอส เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 192/2567 ลงวันที่ 1 เมษายน 2567

หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว ขายรถจักรยานยนต์เพื่อนำเงินมาใช้ในการหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว เป็นเวลากว่า 10 เดือน จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำงานเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ อยู่ย่านตำบลเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบชายมีลักษณะรูปพรรณคล้ายบุคคลตามหมายจับ จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบถามผู้ต้องหา

ทราบว่าชื่อ นายพันแสงฯ หรือมอส เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาพระโขนง ที่ 192/2567 ลงวันที่ 1 เมษายน 2567 จริง จึงได้เข้าทำการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่ เพื่อจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป     

จากการซักถาม นายพันแสงฯ หรือมอส ทราบว่า หลังก่อเหตุตนได้หลบหนีไปพักอาศัยกับเพื่อน ในจังหวัดชลบุรี และเดินทางต่อไปยังจังหวัดเชียงรายเพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ตามรีสอร์ทของพรรคพวก เป็นระยะเวลาหลายเดือน กระทั่งเงินที่ใช้หลบหนีหมด จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาทำงานเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ซอยหมู่บ้านธนเศรษฐ์แลนด์ ตำบลเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ และคิดที่จะมอบตัวอยู่แล้ว แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมตัวได้เสียก่อน

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน