เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จากคดีดังหวย 30 ล้าน กล่าวถึงเรื่องราวคดีความที่กำลังเกิดขึ้นกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ อยู่ในขณะนี้

โดย ครูปรีชา เผยว่า ไอ้ตั้มมันร้ายตั้งแต่ปี 2560 แล้ว ตั้งแต่หวย 30 ล้าน ช่วงนั้นยังไม่มีคดีใด ๆ ไม่เป็นข่าว ต่อมา ทนายตั้มมาที่โรงเรียนด้วยกัน 3 คน มาบอกว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ มาถามหาครูปรีชา ถึงในห้องเรียน มาขอไกล่เกลี่ย เรื่องหวย 30 ล้าน ซึ่งเวลานั้นตนเองก็ไม่ได้รู้จักว่าเป็น ทนายตั้ม บอกว่ามาไกล่เกลี่ย ระหว่างครูปรีชา กับ ลุงจรูญ วิมูล

ตอนนั้นทนายตั้ม บอกว่า หากครูปรีชา มีเลขหางบัตรสลากฯ จริงจะให้ลุงจรูญ นำมาคืนให้ มาขอดูหลักฐานสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 เลข 533726 จำนวน 5 ใบ เวลานั้นครูปรีชา ก็เชื่อเขาว่าคือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และขณะเขานำโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่มีคนแอบถ่ายแล้วเอาโทรศัพท์ครูไปให้อีกคนดู ครูปรีชาจึงดึงเอาโทรศัพท์ กลับมารู้ว่าเขานั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ครูปรีชาขอดูบัตร แต่บอกว่าไม่ได้เอามา และมารู้อีกทีภายหลังเป็น ทนายตั้ม

ทางด้าน เจ๊เกียว เผยว่า ครบ 7 ปีหวย 30 ล้านใช่ไหมคะคดีดังนะคะ เลขดังของเจ๊เกียวไม่เหลือแล้วคะ เพราะคนก็ติดตามเรื่อย ๆ เพราะว่าครบรอบพระราชทานเพลิงของพ่ออยู่หัวองค์ที่ 9 ของเราเหมือนเดิม ครบ 7 ปีที่หวยดังวันที่ 26 คือผ่านมาแล้วคนก็ยังซื้อกันอยู่ เขาขอออกงวดนี้ล่ะค่ะ

ในมุมมอง เจ๊เกียว ก็เกิดมาหลายวันแล้ว คิดว่าการที่ว่าอันนี้ก็ไม่ได้ว่าละเมิดสิทธิ์ทั้งเจ๊อ้อยหรือว่าทนายตั้มนะคะเพราะว่า ถ้าฟังดูชาวบ้านชาวบ้านมันเป็นไปไม่ได้หรอกเพราะว่าอย่างการเจ๊อ้อยเนี่ยลูกเขาก็มี แล้วทนายตั้มน่ะก็มีครอบครัวเค้าคงไม่ให้ด้วยเสน่หาขนาด 70 กว่าล้านล่ะค่ะ ในมุมมองเจ๊เกียวคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าเล็ก ๆ น้อยๆ ที่ให้ด้วยใจเนี่ย อาจจะมีบ้าง แต่ขณะนี้เป็นไปไม่ได้ ทนายตั้มก็ไม่ได้ทำอะไรเจ๊ เพราะว่าคำว่าทนายก็คืออาชีพรับจ้างอย่างหนึ่งแล้ วก็จะทำอะไรที่ผิดที่ถูกน่ะเขารู้แก่ใจตัวเองแต่ถ้าทนายตั้ม ทำอะไรที่ไม่ถูกต้องกับที่ตัวเองเล่าเรียนมาตัวเองก็ควรจะแก้ไข

ผู้สื่อข่าวกาญจนบุรี รายงาน